“รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย” เปิดประชุมจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 6 จ.กาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นสาขาพรรคภาคกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานเปิดการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 6 จังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 โดยมี นายวิมล ประ กอบชัย ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 กล่าวต้อนรับ นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ หรือ กอล์ฟ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจน บุรี เขต 1 นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 นายพนม โพธิ์แก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กาญจนบุรี เขต 5 และสมาชิกพรรค เขต 1 จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุม นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย บรรยายพิเศษ ให้ความรู้เกี่ยวกับสาขาพรรคและการดำ เนินการทางเมือง ให้สมาชิกพรรค เข้าใจและนำไปปฏิบัติ ที่ ห้องประชุม ชั้น 1 โรงแรมราชศุภมิตร อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 6 จังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นสาขาพรรคในภาคกลาง (โซนตะวันตก) เพิ่มอีกหนึ่งสาขา ซึ่งมีความสำคัญต่อพรรคการเมืองและต่อระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า สาขาพรรคถือเป็นกลไกที่เชื่อมโยงระหว่างพรรคการเมืองกับสมาชิกและประชาชนในการนำปัญหาหรือความต้องการของประชาชนมากำหนดเป็นโยบายหรือบัญญัติเป็นกฎหมายต่างๆ รวมทั้งสาขาพรรคยังเป็นกลไกที่สำคัญในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ดังนั้น พรรค การเมืองจึงจำเป็นต้องมีสาขาพรรค เพื่อดำเนินกิจการทางการเมืองในพื้นที่

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการรเมือง ยังกำหนดว่าพรรค การเมืองทุกพรรค ต้องมีสาขาพรรคการเมืองในแต่ละภาคอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา และสาขาแต่ละสาขาต้องมีสมาชิกอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบไม่น้อยกว่า 500 คน หากพรรคการเมืองมีสาขาพรรคการเมืองเหลือไม่ถึงภาคละ 1 สาขาเป็นระยะเวาติดต่อกัน 1 ปี ถือเป็นเหตุให้พรรคการ เมืองนั้นสิ้นสภาพความเป็นพรรค การเมือง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงถือเป็นนโยบายสำคัญในการที่จะต้องจัดตั้งสาขาพรรคเพิ่มเติมในแต่ละภาค เนื่องจกปัจจุบันพรรคมีจำนวนสาขาเพียงเกณฑ์ขั้นต่ำ คือ มี 4 สาขา ประกอบด้วย สาขาจังหวัดอุดรธานี สาขาจังหวัดเชียงใหม่ สาขาจังหวัดภูเก็ต และ สาขานนทบุรี และในวันนี้ จะมีสาขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสาขา คือ สาขาจังหวัดกาญจนบุรี

นายวิมล ประกอบชัย หัวหน้าสาขาพรรค กล่าวว่า การประชุมจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 6 จังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 มีสมาชิกพรรค เข้าร่วม จำนวน 123 คน ผลการคัดเลือกกรรมการสาขาพรรคฯ ดังนี้ 1.นายวิมล ประกอบชัย หัวหน้าสาขาพรรค 2.นายสุตรจิต ไสยะหุต รองหัวหน้าสาขาพรรค 3.น.ส.จิรฐา อุณหะชาติ เลขานุ การสาขาพรรค 4.นายธนิสร เรืองบุญ รองเลขานุการสาขาพรรค 5. นายปิยะพงษ์ เลาหะปิยะกุล เหรัญ ญิกสาขาพรรค 6. นายนัณฐพงษ์ แช่มช้อย นายทพเบียนสมาชิกสาขาพรรค 7.นายกฤษณ์ บุญชูเกิด โฆษกสาขาพรรค 8.นายพฤหัส บุญรัตนช่วง กรรม การสาขาพรรค 9.นายนพพร หอทอง กรรมการสาขาพรรค และ 10.นายวิโรจน์ อุ่มบัว กรรมการสาขาพรรค ในส่วนของที่ตั้งสำนักงานสาขาพรรค ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 118 ตำบลแก่งเสี่ยน อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจน บุรี

นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ หรือกอล์ฟ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญ จนบุรี เขต 1 กล่าวว่า รอบนี้เพื่อไทย โดยเฉพาะเมืองกาญจน์ ผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าจะเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับคนเมืองกาญจน์ เราอยู่กับการเมืองเดิมๆมาหลายสิบปีแล้ว นี่ก็เป็นมิติใหม่ของการที่จะเปลี่ยน แปลงเมืองกาญจน์ ดังนั้น เพื่อไทยด้วยความที่เก่งในด้านเศรษฐ กิจอยู่แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจ เป็นปัญหาหลักตอนนี้ ในส่วนตัวมองว่า ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล หรือเป็นตัวแทนให้กับพี่น้องคนเมืองกาญจน์ เมืองกาญจน์จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นในหลายมุม ตอนนี้ ว่าที่ผู้สมัคร เพื่อไทย ทั้ง 5 เขต พร้อมแล้ว รอเปิดตัวพร้อมกันทีเดียวประมาณเดือนมกราคม เนื่องจากอดีตเราเคยได้ ส.ส.เพื่อไทย ทั้ง 5 เขต แล้วมีพ่อแม่พี่น้องที่เป็นชาวเสื้อแดงด้วย รอบนี้ก็คาดหวังที่จะมี ส.ส.เมืองกาญจน์

นายอัครนันท์ กล่าวอีกว่า ในส่วนตัวมั่นใจมาก แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชนอยากเปลี่ยนแปลงขนาดไหน ผมถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งแล้วกัน อดีตที่ผ่านมา นโย บายที่เพื่อไทยประกาศมาทำได้หมด ดังนั้น สิ่งที่เพื่อไทยกำลังจะประกาศหรือ กำลังจะทำ เป็นสิ่งที่ทำได้ในอดีต นโยบายเราไม่ได้ขายฝัน นโยบายที่เพื่อไทยตัดสินใจจะทำ เป็นนโยบายที่ทำได้จริง เป็นสิ่งที่ประชาชนเชื่อมั่นอยู่แล้ว รอบนี้เสียงของประชาชนจะใหญ่กว่าอะไรหลายๆอย่าง ตนเชื่อว่า การเลือกตั้งกับการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา เป็นเสียงที่ประชาชนสะท้อนมาระดับหนึ่งแล้ว แต่การเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง จะเป็นเสียงที่ประชาชนอยากเปลี่ยน แปลงครั้งใหญ่แล้วก็เป็นครั้งที่สำคัญด้วย โดยเฉพาะเมือง
กาญจน์.