พระพยอมเตือน พระกับครูจะดูแข่งกันสร้างความเสียหายและศัทธา !!

จากกรณี พระครูบาดัง ของวัดแห่งหนึ่งใน อ.ป่าแดด จ.เชียงใหม่ ที่ว่า “พฤติกรรมของครูบากับการมีอะไรกับหนุ่มๆ ดูเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะร้องเรียนให้ตรวจสอบมานับไม่ถ้วน แต่ทุกอย่างก็เงียบ เพราะคนที่ตรวจสอบดันเป็นลูกศิษย์ที่นับถือครูบารายนี้มาก ทำ ให้การเสพสุขกับหนุ่มๆ แทบจะวันเว้นวันและไม่เคยขาดด้วยความที่มีญาติโยมถวายเงินทำบุญต่อวันหลายหมื่นการที่จะเอาเงินมาทุ่มกับเรื่องเซ็กส์ เปย์ไม่อั้น จึงเป็นเรื่องง่ายๆ ทำให้มีเด็กหนุ่มเข้ามาถวายตัวกับครูบา

เมื่อวันที่ 16ม.ค 2566 ทีผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าพบพระ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า กรณีพระกับครู จะดูแข่งกันสร้างความเสียหายและศัทธา โดยเฉพาะคนที่เป็นครูบาอาจารย์ก็ไปทำอะไรกับเด็กๆ พระก็เรียนแบบครูหรือครูเรียนแบบพระก็ไม่รู้ โดยเฉพาะครูบา สมัยก่อนถ้าลองได้ชื่อว่าครูบา เขาจะนึกถึงครูบาศรีวิชัยซึ่งเป็นครูบาที่เป็นเพรชน้ำหนึ่งของภาคเหนือแต่ครูบายุคนี้ไม่รู้เป็นอะไร คาบาเพรชในตมหรือยังไง จนกระทั่งชาวบ้านต้องออกมาบ่นมาแจ้งความดำเนินคดี แทนที่จะเอาเงินที่โยมเขาสร้างบารมีของเขา แล้วพระก็ควรที่จะสร้างบารมีต่อไม่ควรจะเอาเงินมาสร้างคดีไปเปย์เด็กไปทำอพไรเด็กซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องขอฝาก การบวชมันต้องมีคำว่าเว้นงด ถ้าไม่เว้นเรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียร ก็ไปเป็นนักการเมืองเป็นนักบวชเป็นไม่ได้ เป็นนักบวชต้องเว้นกินมุมมามกินกระจัดกระจายกินไม่เลือก แต่พระต้องเลือกเหล้ายากินไม่ได้ แล้วกามก็เหมือนกันไปหลงไหลไม่ได้เพราะต้องออกมาแล้วถ้ายังอยากจะไปวงวนอยู่ก็ต้องสึกออกไปถึงจะทำได้ สุดท้ายเกียรพระไม่ต้องไปแข่งขันเอาคะแนนจากเขาไม่ต้องย้ายพรรคย้ายพวกเก็บตุนคะแนนเสียงเพื่อได้เกียจเป็นนั้นเป็นนี้ เป็นพระต้องเป็นให้ได้อย่างนึ่ง ต้องเป็นพระสุปะติปัญโน ให้ได้แล้วถึงจะเรียกว่าช่วยกับสืบทอดพระศาสนาให้เป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลกต่อไปมิฉะนั้นจะกลายเป็นเรื่องบั่นทอนศัทธาทำลายพระศาสนาให้อายุสั้นไป ขอบิณฑ บาตครูบาอาจารย์รุ่นหลังถ้าเป็นครูบาให้นึกถึงครูบาศรีวิชัย หรือ ครูบาวัดพระบาตรตากผ้าที่เรื่องลือในทางเมตตาบริสุทธิ์ ไม่มีคำว่ามทินเสียหาย.