จากกรณีที่ทางเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 5.2 ได้โพสต์ภาพของเด็กชายรายหนึ่ง ที่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส หลังมีอาการเดินไม่ได้ และปัสสาวะไม่ออก โดยได้เขียนข้อความว่า ลงโทษหนักไปไหมกับเด็กวัยขนาดนี้ คนที่ลง โทษเด็กไม่ใช่ครู แต่เป็นผู้คุมหอพักชาย ซึ่งไม่ได้เรียนในสายอาชีพครู เด็กชายชั้น ป 3 เป็นเด็กนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอรือเสาะ ถูกผู้ดูแลลงโทษให้เด็กลุกนั่งเกิน 300 ที จนต้องเข้าโรงพยาบาลอาการสาหัส ทำให้เด็กเดินไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดคือทำให้ตับไตทำงานไม่ปกติ ฉี่ไม่ออก เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กตัวแค่นี้ถึงน้องจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่ควรทำถึงขนาดนี้มันเกินไปไหม ซึ่งภายหลังที่มีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าว ก็มีชาวโซเชี่ยล เข้าไปแสดงความคิดเห็น และแชร์เรื่องราวนี้กันเป็นจำนวนมาก
โดย ทางนางสาวนิมูรณี มะแตหะ อายุ 33 ปี มารดาของเด็ก ได้เดินทางไปพบ พนักงานสอบสวนที่ สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ เพื่อขอลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 บุตรชายของเธอได้กลับมาจากโรงเรียน หลังจากนั้นเธอก็สังเกตเห็นอาการบุตรชาย ไม่สามารถเดินได้ จึงได้สอบถามบุตรชาย จึงได้ทราบว่า โดนสั่งให้ลุกนั่งเพื่อเป็นการทำโทษ จำนวนหลายครั้ง จนทำให้บุตรชายของเธอกล้ามเนื้ออักเสบ จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ ซึ่งทางร้อยตำรวจเอกเสกสรร เรื่องฤทธิ์ รองสารวัตรสอบสวน ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายซุลกอรนัย เจ๊ะมามะ ซึ่งเป็นพ่อของเด็กชายคนนี้ เพื่อสอบ ถามเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเขาได้ให้ฟังว่า เมื่อวันศุกร์ไปรับลูกที่โรง เรียนกลับไปส่งที่บ้าน แล้วก็กลับมาทำงาน จนถึงช่วงค่ำแฟนโทรมาบอกว่าลูกเดินไม่ได้ โดยลูกเล่าให้ฟังว่า ถูกคนคุมหอพักทำโทษด้วยการให้ลุกนั่ง 300 ครั้ง จนถึงเช้าก็พบว่าลูกเดินไม่ได้นอนนิ่ง ก็จึงได้พาลูกไปโรงพยาบาล แพทย์ได้ตรวจเลือดก็พบว่าค่าตับสูง ปัสสาวะไม่ออก ส่วนสาเหตุนั้นก็ทราบว่า มีเด็กไปเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ เด็กทั้งหมดที่อยู่ที่หอพักจึงถูกลงโทษ ซึ่งในเบื้องต้นนั้น เมื่อวาน ทางโรงเรียนก็ได้เดินทางมาเยี่ยมแล้วพูดคุยกันแล้ว และให้ย้ายลูกชายของเขาไปอยู่ในห้องพิเศษ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ซึ่งเขาก็ยืนยันว่าจะขอดำเนินการให้ถึงที่สุด หากทางโรงเรียนไม่รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น.
Discussion about this post