วันที่ 31 มกราคม 2566 ณ สถาบันพัฒนาการป่าไม้จังหวัดแพร่(โรงเรียนป่าไม้เดิม) อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มอบหมายให้ นายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์เตรียมความพร้อมการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน Kick off ในพื้นที่ จังหวัดแพร่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 มี นายชิดชนก สุขมงคล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 กล่าวรายงาน
จังหวัดแพร่ เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคมของ
ทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวต่อฤดูแล้งทำให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในค่าที่เกินมาตรฐาน เนื่องจากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายด้าน เช่น วิถีชีวิตและการประกอบอาชีพเกษตรกรรมแบบเดิมของชาวจังหวัดแพร่ ที่มัวพะวงแต่การทำมาหากินจนลืมตระหนักถึงปัญหาหมอกควันและไฟป่า จึงมักทำการเผาเศษวัชพืชในที่โล่งแจ้งเพื่อเตรียมการเพาะปลูก ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็ว สะดวก สบาย ประกอบกับสภาพภูมิประเทศเป็นหุบเขา และในช่วงเวลาดังกล่าว
มวลอากาศเย็นเริ่มปกคลุม และ
ภาพอากาศแห้งและนิ่ง ฝนละอองสามารถแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศได้นาน ไม่สามารถแพร่กระจายออก ก่อให้เกิดสภาพฟ้าหลัว มีหมอกควันปกคลุม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจังหวัดแพร่ ผลกระทบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงส่งผลต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดแพร่
พื้นที่จังหวัดแพร่ จำนวน 4,086, 625 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 872 506.29 ไร่ คิดเป็น 21.99 % ของพื้นที่จังหวัดแพร่ พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 1,850 ,257 ไร่ คิดเป็น 45.28 % ของพื้นที่จังหวัดแพร่ พื้นที่ สปก/ เกษตร /
อื่นๆ จำนวน 1,363, 867.71 ไร่ ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เล็งเห็นว่าจังหวัดแพร่ เป็นพื้นที่เป้าหมายในการเตรียมความพร้อมการกันและแก้ขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เนไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นรูปธรรม มีการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของจังหวัดแพร่ จึงได้จัดทำโครงการความพร้อมการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (Kick of) ในพื้นที่จังหวัดแพร่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ขึ้น ฉะนั้น ในการแก้ไขปัญหาไฟป่และหมอกควันให้ประสบผลสำเร็จ จึงจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนงดเว้นการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะ และเผาวัชพืชข้างทางเผาในพื้นที่โล่งแจ้งทุกกรณี เพื่อให้บ้านของเรามีอากาศสดใสไร้ควันพิษ ซึ่งจังหวัดแพร่ได้มีประกาศให้มีการงดเผาโดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ถึง วันที่ 30 เมษายน 2566
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเร่งรัดการประชาสัมพันธ์เชิงรุกรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ความรู้การป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ระทบต่อสุขภาพทางวิชาการที่ถูกต้อง การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่ หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จุดความร้อน (Hotspot) ควบคุม ป้องกัน การกิฟป่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และลดมลพิษจากหมอกควันไฟป่า เพื่อประชาชนทราบถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาตเล็ก (PM ๒.๕) ตลอดจน
ผลกระทบจากไฟบำ เพื่อให้ผู้นำหมู่บ้านหรือชุมชน และประชาชนเกิดทัศนคติที่ดีต่อเข้าหน้าที่และหน่วยงานด้านการควบคุมไฟป่า
กิจกรรมในวันนี้ประกอบไปด้วย การรับมอบอุปกรณ์ดับไฟป่า (เครื่องเป่าลม จำนวน 10 เครื่อง) เพื่อสนับสนุน
การปฏิบัติงานดับไฟป่าให้มีประสิทธิภาพ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ การมอบเสบียง อาหารแห้ง น้ำ ให้ตัวแทนหน่วยผู้ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า จำนวน 10 ชุด ประกอบด้วย ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า , ส่วนอุทยานแห่งชาติ , ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ , สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 แพร่ กองพันทหารม้าที่ 12, สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส. จ แพร่) , สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ , กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ , อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดแพร่ (อปพร จ.แพร่) พร้อมมอบเงินสนับสนุน (งบอุดหนุน) เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) และเครือข่ายอาสาราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ 38 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 50,000 บาท พิธีการปล่อยขบวนรถ เพื่อเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ตระหนักถึงการเตรียมพร้อมในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยมีขบวนรถยนต์จำนวน 25 คัน และมีการจัดนิทรรศการเพื่อให้ความรู้เรื่องไฟป่า แจกเอกสารสื่อประชาสัมพันธ์ไฟป่า
ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ กิจกรรมหนึ่งที่จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจ และให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟบำและหมอกควันให้ลดลงได้เป็นอย่างดี และขอขอบคุณทุกหน่วยงาน เครือข่ายการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ทุกท่านที่ได้มาร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าตัวแทนชุมชนที่มาร่วมจะนำไปขยายผลในชุมชนตนเองต่อไป
โดยการจัดงานรณรงค์ฯวันนี้ มีหน่วยงานภาคีเครือข่าย เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 30 หน่วยงาน และชุมชนร่วม
38 หมู่บ้าน รวมผู้เข้าร่วมงานประมาณ 700 คน
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่่
Discussion about this post