
วันที่ 17 ก.พ.66 ที่ ห้องประชุมหิรัญนคร สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 3 จังหวัด เชียงราย นายวิเศษ เชยกระรินทร์ ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาเชียงราย เขต 3 ได้เป็นประธานในการจัดกิจกรรม การถอดบทเรียนและมอบรางวัลโรงเรียนต้นแบบ “ห้องเรียนสู้ฝุ่น” จังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้ยังได้มีการเสวนาการถอดบทเรียนโรงเรียนต้นแบบ โดยมี นายบัณฑิต สิริมงคลกุล ผู้แทนห้างหุ้นส่วนเติมเต็มวิสาหกิจเพื่อสังคม เจ้าของ โครงการห้องเรียนสู้ฝุ่น นายเทวา จันทร์ไฝ ผู้อํานวยการโรงเรียนวิทยาคม อ.เมือง จ.เชียงราย นายธีรนิตย์ พิมพ์เงิน ผู้อำนวยการโรงเรียนเชียงแสนอคาเดมี่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายภูวนารถ จันทาพูน ผู้อำนวยการโรงเรียนป่ายาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยการถอดบทเรียนครั้งนี้เป็นการนำผลจากการทำกิจกรรมในการณรงค์เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 ของแต่ละโรงเรียนที่ได้ทำโครงการ มาถ่ายทอดออกมาเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหา ของฝุ่น PM 2.5 กับชุมชน และนำมาวางแผนปรับใช้ในอนาคต
หลังจากการเสวนา ได้มีการมอบรางวัลโรงเรียนต้นแบบ 3 รางวัล คือรางวัลชนะเลิศคือ โรงเรียนเชียงแสนอคาเดมี่ รองชะเลิศคือโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม และรองชนะเลิศอันดับที่สองคือ โรงเรียนบ้านป่ายาง โดยในการรับรางวัลในครั้งนี้แต่ละโรงเรียนได้มีการนำเสนอผลงานที่ได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับห้องเรียนสู้ฝุ่นในแต่ละโรงเรียน โดยแต่ละโรงเรียนได้มีการนำเสนอการแจ้งเตือนคุณภาพอากาศ เพื่อให้ทราบถึงสภาพอากาศในวันนั้นว่าควรจะทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือไม่ ซึ่งพบว่าโรงเรียนบ้านป่ายาง ได้มีการนำเสนอที่น่าสนใจคือ นักเรียนได้นำเสนอการแจ้งเตือนคุณภาพอากาศเป็น 4 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาไทยใหญ่ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เนื่องจากสภาพชุมชนของบ้านป่ายางเป็นชุนชนที่มีทั้งชาติพันธุ์และชาวต่างชาติอาศัยอยู่ ทางโรงเรียนจึงต้องการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่อยู่ในชุมชนได้รับทราบถึงคุณภาพอากาศประจำวันด้วย

นายวิเศษ เชยกระรินทร์ ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาเชียงราย เขต 3 กล่าวว่า ทุกคนไม่ว่าเด็กหรือบุคลากรทางการศึกษาเริ่มเห็นความสำคัญในเรื่องของการป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 นั่นก็คือจากที่บังคับในการใส่มาสก์ในการออกพื้นที่กลางแจ้งทุกคนรู้สถานการณ์ว่าถ้าเกิดว่าละอองอยู่ในระดับอันตรายของที่ต้องหาซื้อเป็นของประจำกาย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนพฤษภาคมแล้วก็ยังต้องใส่ในป้องกันสำหรับเชื้อโรคอีก ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนว่าทุกคนไม่ต้องไปบอกว่าสวมมาสก์และสวมทุกคนก็คือสวมโดยที่เป็นความตระหนักเลยรู้
“ทางเขตมีแผนคือสร้างความตระหนักให้กับทุกโรงเรียนว่าเรามีองค์กรเอกชนที่เข้ามาส่งเสริมสนับสนุนให้เรา โครงการนี้ได้ต่อเนื่องแล้วก็แจ้งทุกโรงเรียนว่าในแต่ละ เดือนแต่ละปีเราจะต้องทำอะไรบ้างและในช่วงเดือนมกราคมเป็นต้นไปในการที่เราจะต้องสร้างความร่วมมือและสร้างความเข้าใจปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นเพื่อที่จะสู้ฝุ่น PM 2.5 ให้ให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยแล้วก็รักษาสุขภาพให้เป็นโรคภัยที่เกี่ยวกับเรื่องระบบทางเดินหายใจเรามีเรามีแผนลงให้โรงเรียนว่าปฏิทินในช่วงเข้มข้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ของทุกปีด้วย” ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาเชียงราย เขต 3 กล่าว
Discussion about this post