PEA จัดโครงการสับเปลี่ยนอุป กรณ์ไฟฟ้าแรงสูง อ.เกาะสมุย เสริมความมั่นคงในการจ่ายไฟฟ้าให้ปชช. และภาคธุรกิจท่องเที่ยว

วันนี้ ( 2 มีนาคม 2566 ) นายยุทธนา พูลสวัสดิ์ รองผู้จัดการการไฟฟ้าเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี ได้เปิดเผยว่า จากปัญหาพื้นที่เกาะสมุยได้เกิดกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวของพื้นที่ โดยสาเหตุของปัญหาดังกล่าวเกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าเสื่อมสภาพ ชำรุด

ดังนั้น ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเกาะสมุย จึงได้เสนอโครง การสับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง สร้างความมั่นคงในการใช้กระแสไฟฟ้า และได้รับอนุมัติงบประมาณวงเงิน 68 ล้านบาท เพื่อ ดำเนินการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูง(เปลี่ยนสายไฟฟ้า Cable Spacer) จำนวน 2,060 ชุด เพิ่มลูกถ้วย ต้น DDE จำนวน 180 ลูก และเปลี่ยน tie wire เป็น composite tie wire เพื่อป้องกันการเกิดเหตุไฟดับ ไฟตก เสริมสร้างความมั่นคงในการจ่ายไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพ ความมั่งคงของระบบจำหน่ายในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า ประชาชนในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จำนวน 10,050 จุด รอบเกาะสมุย โดยใช้เวลาดำเนินการให้สิ้นสุดภายในเดือนมีนาคม เพื่อรองรับการท่องเที่ยวให้ทันในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว

รองผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิ ภาคอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า การปฏิบัติงานสับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงเริ่มดำเนินการวันที่ 2 มีนาคม 2566 โดยมีการระดมชุดทีมงานก่อสร้างจากจังหวัดกระบี่, จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 20 ชุด ประกอบด้วย การไฟฟ้าส่วนภูมิ ภาคเกาะสมุย ร่วมกับ กฟต.2, กฟจ. สุราษฎร์ธานี, กฟอ.พุนพิน, กฟอ.เวียงสระ, กฟอ.ท่าศาลา, กฟอ.กาญจนดิษฐ์, กฟส.อ.ไชยา, กฟส.อ.เกาะพะงัน,กฟส.อ.พระแสง, กฟส.อ.ขนอม,กฟส.อ.เขาพนม มาช่วยปฏิบัติงานเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงที่เสื่อมสภาพ (Cable Spacer)ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซีบ่อผุด ถึงหน้าโรงพยาบาลกรุงเทพสมุย ซึ่งในการปฏิบัติงานดังกล่าว มีการ นำรถบรรทุกติดกระเช้า จำนวน ๒0 คัน และมีผู้ปฏิบัติงาน ประ มาณ ๑๕0 คน เข้าปฏิบัติการ เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบการจากหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว

ทั้งนี้ อำเภอเกาะสมุย เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ อยู่ในอันดับที่ 3 รองลงมาจาก ภูเก็ต และ กรุงเทพฯ ซึ่งการฟื้นตัวของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราการใช้ไฟฟ้าของพื้นที่มีเพิ่มขึ้นตามมา จากเดิม 80-90 เมกะวัตต์ เป็น 120 เมกะวัตต์ ดังนั้น การสับเปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการ เตรียมความพร้อมด้านสาธารณูป โภครองรับการท่องเที่ยว.