สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังน่าเป็นห่วง หลังค่าฝุ่นพิษเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ทัศนวิสัยเหลือเพียง 3 กม.

ปภ.แม่ฮ่องสอนเร่งระดมรถฉีดน้ำลดฝุ่นบริเวณสถานที่ราชการ หวังลดฝุ่นพิษ ขณะที่ผลกระทบจากหมอกควันไฟป่ายังไม่ทบต่อการท่องเที่ยวมากนั้น

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2566 ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่อง สอน รายงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประ จำวันที่ 4 มีนาคม 2566 สถาน การณ์ไฟป่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกรา คม – 3 มีนาคม 2566 จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 3 มีนาคม 2566 จังหวัดแม่ฮ่อง สอน มีจุดความร้อนสะสมทั้งหมด 1,629 จุด คิดเป็นร้อยละ 31.24 ของจุดความร้อนสะสมปี 2565 หรือ คิดเป็นร้อยละ 17.37 ของค่าเป้าหมายปี 2566 ซึ่งทางจังหวัดตั้งเป้าหมายปี 2566 ไม่เกิน 9,378 จุด โดยอำเภอที่มีจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ อำเภอแม่สะเรียง จำนวน 405 จุดสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) ค่า PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่อง สอน เกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 13 วัน ค่าสูงสุดที่วัดได้ เท่ากับ 150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์2566 PM2.5 มีค่า 90 มคก./ลบ.ม.

“คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ”(ค่ามาตรฐานเกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

สถานการณ์เกี่ยวกับไฟป่าที่เริ่มรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ในทุกอำเภอของจังหวัด โดยเฉพาะบนเทือกเขาสูงชัน ส่งผลให้ไม่สามารถดับไฟป่าที่เกิดขึ้นได้ จึงทำให้เกิดกลุ่มควันไฟป่าลอยปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัด แต่ในห้วงนี้ หมอกควันจากไฟป่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อการบินของสายการบินพาณิชย์แต่อย่างใด

เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้นำรถดับเพลิงมาทำการพ่นละลองน้ำ บริเวณในศูนย์ราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อลดปริมาณฝุ่นหมอกควันในอากาศ

ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ชัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เป็นเผยว่า ในช่วงนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวไทยได้ลดลงแต่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ อ.ปาย และพากันเดินทางมาท่องเที่ยวต่อใน อ.ปางมะผ้า อ.เมือง และ อ.แม่สะ เรียง ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางโดยใช้พาหนะทางรถ ยนต์ มากกว่าทางอากาศ จึงยังไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่ไม่แน่ใจว่า ถ้ามีไฟป่าเกิดขึ้นจนหมอกควันหนาเกินไป เครื่องบินอาจจะต้องยกเลิกเที่ยวบิน ซึ่งถึงตอนนั้นน่าจะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยทางเครื่องบิน ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด.