เมื่อช่วงสายวันที่ 7 มีนาคม 2566 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พา นางสาวเนย (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี เดินทางเข้าติดตามคดีและความคืบหน้า ที่ สภ.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังถูกบุคคลชื่อเล่น “เชฟ” อ้างเป็นนักข่าวสายตำรวจ รู้จักนายตำรวจระดับผู้กำกับหลายนาย รวมไปถึงอัยการศาล โดยบุคคลรายนี้มีพฤติกรรมเรียกรับเงินเพื่อจะเคลียร์คดีความให้
น.ส.เนย ผู้เสียหาย เล่าว่า สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตนเองถูกคู่กรณี(เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง) แจ้งความในข้อหาคดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 580,000 บาท ในพื้นที่ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นได้มีแม่ของเพื่อนอีกคนยื่นมือเข้ามาบอกว่ารู้จักกับนักข่าวคนหนึ่งที่กว้างขวางรู้จักกับตำรวจหลายนายและสามารถจะติดต่อให้มาช่วยเหลือได้ ตนเองจึงหลงเชื่อ จนได้ไปพบกับนักข่าวรายนี้ที่บ้านพักในอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ก่อนที่จะมีการตกลงกันโดยเรียกเงิน จำนวน 200,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำไปให้ ”นาย” ซึ่งเป็นตำรวจระดับผู้กำกับการ ของ สภ.สามโคก โดยอ้างว่าสามารถไปพูดคุยเคลียร์กับผู้เสียหายได้ ตอนนั้นตนเองร้อนใจประกอบกับคิดว่าอาจจะเป็นการเยียวยาคู่กรณีในเบื้องต้นหนักจะได้เป็นเบาจึงยอมไปหากู้เงินมา
จากนั้นไม่นานได้รับการติดต่อจากแม่ของเพื่อนคนเดิมบอกว่าได้คุยกับนักข่าวสายตำรวจรายนี้แล้ว โดยบอกว่าต้องการเงินอีก 100,000 บาท เนื่องจากอ้างว่าคู่กรณีซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รู้จักกับนายตำรวจใหญ่และเขาก็ไม่ยอมหากไม่โอนเงินให้ครบตามจำนวนตนจะถูกอุ้ม ตอนนั้นตนเองรู้สึกกลัวมาก จึงพยายามหาเงินแต่หามาได้เพียง 50,000 บาท และดำเนินการโอนให้ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จนมารู้เรื่องทั้งหมดในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ว่าเงินทั้งหมดที่ตนเองโอนไปไม่ได้นำไปเคลียร์กับคู่กรณีเลย ซึ่งเมื่อตนรู้ว่าเรื่องไม่ได้เป็นตามที่คุยกันไว้ จึงรู้ว่าถูกหลอกก่อนจะติดต่อมายังคุณกัน จอมพลัง เพราะตอนนี้ตนลำบากยังมากทรัพย์สินที่มีตนได้นำไปขายแม้กระทั่งรถยนต์ตนยังเอาไปจำนำเพื่อเอาเงินมาให้นักข่าวคนดังกล่าว

ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือก็เดินทางพาผู้เสียหายหญิงรายนี้มาติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าว หลังจากแจ้งความไปแล้วและคดีความไม่คืบหน้า ที่พร้อมบอกว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ที่มีการอ้างว่าตัวเองเป็นผู้สื่อข่าวและรับเคลียร์คดีความต่างๆได้เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจสื่อมวลชนที่ดีจะไม่กระทำพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าตัวเองจึงต้องการเข้ามาช่วยเหลือเพราะเห็นว่าผู้เสียหายที่ถูกแจ้งข้อหาเป็นคดีก็ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้วยังต้องไปหาเงินอีกหลายแสนบาทมาให้กับบุคคลที่ทำตัวลักษณะเป็นมิจฉาชีพแบบนี้จึงยอมไม่ได้
พร้อมกันนี้ทาง กัน จอมพลัง ยังมีการโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้กำกับการ สภ.สามโคก ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้น พันตำรวจเอกจตุพร คงเมือง ผกก.สภ.สามโคก บอกว่าตัวเองไม่ทราบเรื่องเพราะเพิ่ย้ายงเข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้กำกับการที่ สภ.สามโคก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และขิย้ำว่าไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยังไม่รู้จักผู้สื่อข่าวคนไหนเลย ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนทางด้านความคืบหน้าคดีดังกล่าวนี้ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ฟักศรี ผกก.สภ.สวนพริกไทย กล่าวยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายซึ่งก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกครั้งที่ 1และครั้งที่ 2 ไปแล้วแต่ทางคู่กรณีที่เป็นผู้สื่อข่าวที่ถูกกล่าวหานั้น ยังไม่เข้ามาพบพนักงานสอบสวน จึงเตรียมจะออกหมายเรียกครั้งที่สาม หากยังไม่เข้ามาก็จะดำเนินการขออนุญาตศาลออกหมายจับต่อไป ซึ่งตอนนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหายในเบื้องต้นแล้วและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานสลิปการโอนเงินต่างๆไว้ทั้งหมดแล้วและจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำเพื่อดูว่ามีการทำเป็นขบวนการหรือไม่
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน
Discussion about this post