ก่อนฝังกลบเจ้าของแพะยังทำใจไม่ได้ทุกตัวรักเหมือนลูก

วันที่ 11 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยองค์การบริหารส่วนตำบลเพนียด พร้อมรถน้ำดับเพลิงจำนวน 2 คัน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์พร้อมรถน้ำดับเพลิงเคลื่อนที่เร็ว รุดเดินทางไปยังคอกแพะหมู่ที่ 1 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง หลังจากได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งจุดเกิดเหตุต้นเพลิงเป็นคอกสัตว์เลี้ยงแพะปลูกอยู่กับพื้นดินบริเวณบ้านเลขที่ 789 หมู่ 1 ตำบลเพนียด เพลิงกำลังลุกไฟไหม้อยู่ในคอกสัตว์เลี้ยงแพะซึ่งมีเพะติดอยู่ในคอกจำนวนมากส่งเสียงร้องระงมด้วยความตื่นกลัว

เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วแพะถูกไฟคลอกตายเกลื่อนพื้นคอก เสียงร้องระงมจากแพะที่ยังรอดชีวิต เจ้าหน้าที่จึงเร่งฉีดน้ำดับสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม และช่วยเหลือแพะที่ยังติดอยู่ให้รอดชีวิตเพียงไม่กี่ตัว โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด ก่อนข้าไปตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นพบซากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แพะ และแพะเนื้อนมถูกไฟคลอกตายไปกว่าร้อยตัวในสภาพไหม้เกรียม

จากสอบถามนายองอาจ ศรเชญ อายุ 50 ปี เจ้าของคอกแพะ กล่าวว่า ตนได้เลี้ยงแพะไว้ทั้งหมดจำนวน 110 ตัว ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 22.00 นาฬิกา ตนได้มาเดินตรวจคอกแพะ และยังได้ก่อกองไฟไล่ยุงให้แพะเสร็จได้ดับกองไฟเรียบร้อย หลังจากนั้นได้ไปนอนเฝ้าคอกควายที่อยู่ห่างจากคอกแพะประมาณ 3 กิโลเมตร จนกระทั้งหลานโทรมากลางดึกว่าไฟไหม้ที่คอกแพะ จึงได้แจ้งรถดับเพลิง อบต.เพนียด มาช่วยเหลือดับไฟ แต่คอกแพะมีฟาง เศษหญ้าแห้งเพื่อให้แพะได้กิน ได้นอนจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟได้ลุกลามไหม้ลามในคอกอย่างรวดเร็ว จนเพลิงได้เผาผลาญแพะไปเกือบหมด ขณะเพลิงไม้ก็ไม่สามารถเข้าไปเปิดประตูเอาแพะออกมาได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น แพะที่เลี้ยงไว้จำนวน 110 ตัว รอดชีวิตมาได้เพียง 8 ตัวเท่านั้น สาเหตุตั้งไว้สองประเด็นไฟไล่ยุงแมลงดับไม่สนิท ได้ลุกลามติดฟางในคอก หรือไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายประมาณ 450,000 -550,000 บาท บาท ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดคงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ล่าสุดเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบพ่อและแม่ของนายองอาจ ศรเชญ อายุ 50 ปี เจ้าของคอกแพะ ซึ่งกำลังดำเนินการที่ให้รถแบคโฮ ขุดหลุมขนาดใหญ่ เพื่อฝังกลบซากแพะที่ถูกไฟคลอกจำนวน 101 ตัว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้เข้ามาตรวจสอบ บันทึกปากคำนายองอาจ เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะเพื่อทำการช่วยเหลือเยียวยา พบว่ามีแพะที่รอดชีวิตเพียงจำนวน 9 ตัว ซึ่งแต่ละตัวยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก บางตัวยังบาดเจ็บจาก ถูกไฟลวกมีแผลพุพองตามลำตัว ใบหน้า ซึ่งได้คัดแยกนำไว้บนรถเพื่อรอดูอาการ หลังจากที่ได้ทำการรักษาบาดแผล ฉีดยาลดอาการเจ็บปวดจากบาดแผล
ซึ่งพ่อและแม่ของนายองอาจกล่าวว่าลูกชายยังอยู่ในบ้านไม่ได้ออกมาดูแพะของตนเองที่กำลังจะถูกฝังกลบ เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ เขาเลี้ยงดูแพะทุกตัวอย่างดีตั้งแต่คลอด จนโต จำชื่อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ทุกตัว และยังมีลูกแพะเล็ก แรกเกิดอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกย่างสดในกองเพลิง หลังช่วงเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพนียด ผู้นำท้องถิ่น และสาธารณสุขตำบลเข้ามาดูแลให้กำลังใจ แต่ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ลงพื้นที่เพื่อสรุปสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากกองไฟที่สุมไล่ยุงและแมลงดับไม่สนิทไหม้ลุกลามเข้าไปฟางเศษหญ่าแห้งที่คอก หรืออาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ประกายไฟจากสายไฟฟ้าที่ไหม้ตกลงกองฟางจนไหม้ลุกลาม
ซากแพะที่ถกไฟคลอกจำนวน 101 ตัว กำลังเน่าเหม็นจำเป็นต้องรีบทำการฝังกลบตามที่สาธาณสุขแนะนำ รู้สึกสลดหดหู่ สงสารลูกชาย สงสารแพะที่ต้องมาตายอเนจอนาถในกองเพลิงอย่างทรมาน ทรัพย์สินเสียหายหลายรายการ มูลค่าความสูญเสียในครั้งนี้กว่า 5 แสนบาท

กฤษณ์ สนใจ ลพบุรี 0890899090