
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ด้วยการใช้รถตู้ 2 คัน เป็นพาหนะ
หลังจากได้รับแจ้ง จึงสั่งการให้ นายอัฐพล สามแสน ปลัดอาวุโส นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ และสมาชิกอาสารักษาดินแดนอำเภอทองผาภูมิที่ 9 ออกตรวจตราลาดตระเวนไปตามถนนทางหลวงสาย 323 (สังขละบุรี-กาญจนบุรี)
จนกระทั่งเวลา 12.00 น.พบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า คอมมูเตอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน จันทบุรี และรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กทม ขับตามกันมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าไปทางอำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยรถตู้ทั้ง 2 คันติดฟิล์มมืดมองไม่เห็นภายใน ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสาย เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามไป พร้อมประสานไปยัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)บ้านกุยมั่ง หมู่ 6 ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ นำกำลังมาร่วมกันสกัดจับ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดติดตามได้ส่งสัญญาณเรียกให้คนขับรถตู้ทั้ง 2 คันหยุด เพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฎว่าเมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่กลับไม่ยอม และยังได้เร่งเครื่องหลบหนีตามกันไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงสื่อสารทางวิทยุให้ช่วยกันติดตาม โดยรถตู้ทั้ง 2 คันได้ขับหลบหนีเข้าไปในสวนปาล์มของชาวบ้าน ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่
แต่เนื่องจากถนนเป็นเส้นทางดินเหนียวฝนเพิ่งหยุดตกจึงลื่นทำให้รถตู้ทั้ง 2 คันติดหล่มไม่สามารถขับหลบหนีไปไหนได้ ระหว่างนั้นคนขับได้ฉวยจังหวะเปิดประตูแล้วอาศัยความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนี ไปพร้อมกับกลุ่มแรงงานที่โดยสารมากับรถทั้ง 2 คัน โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทันคนขับสามารถหลบหนีไปได้ ส่วนกลุ่มแรงงานทั้งชายหญิงที่ไม่รู้เส้นทางต่างไปหลบซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆภายในสวนปาล์ม
เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมพร้อมตะโกนเรียกให้ออกมามอบตัว ในที่สุดกลุ่มแรงงานทั้งหมดจึงยอมออกมา รวมจำนวน 43 คน เป็นชาย 29 คน หญิง 14 คน พร้อมกับยึดอายัดรถตู้เอาไว้เป็นของกลาง จากนั้นจึงนำตัวกลุ่มแรงงานไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ
จากการสอบปากคำเบื้องต้น กลุ่มแรงงานให้การว่า พวกตนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการเดินเท้าข้ามเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติด้านชายแดนอำเภอสังขละบุรีเขตติดต่อกับอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา จากนั้นมีเรือมารับล่องไปตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณในช่วงเวลากลางคืนมาขึ้นฝั่งในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ โดยมีรถตู้ทั้ง 2 คันมารอรับอยู่แล้ว
หลังจากทุกคนขึ้นรถตู้แล้วเสร็จ คนขับจะนำพาไปส่งที่จุดพักคอยในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีรถมารับส่งไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในอีกทอดหนึ่งโดยต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 13,000-15,000 บาท ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”ซึ่งพนักงานสอบสวน จะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับคนขับรถตู้ ที่หลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
……………………………
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์



































