เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 30 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายบุญนาค ชื่นใจ อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย ว่าถูกแฟนเก่าชื่อน.ส. สามอายุ 16 ปี เป็นนกต่อล่อซื้อโดยมีการนัดนำกระเป๋าพี่สาวผู้เสียหายมาคืน ก่อนให้แฟนใหม่ซึ่งเคยเป็นคู่อริของผู้เสียหายทั้ง 2 คน ใช้อาวุธมีดไล่ฟัน จนวิ่งหนีตายกระโดดลงน้ำ ที่เกิดเหตุบริเวณท่าน้ำปากเกร็ด ต.ปาก เกร็ด จ.นนทบุรี แจ้งความไว้แล้วที่สภ.ปากเกร็ด
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 30 มี.ค.66 จับภาพ น.ส.สาม ขี่จยย.ซ้อนสาม โดยมีชายวัยรุ่น 2 คนซ้อนท้าย จยย.มา จากนั้นน.ส.สามได้ จอดรถจยย.บริเวณหน้าวัดบ่อ โดยชายทั้งสองได้ลงจากรถแล้วหยิบอาวุธมีดใต้เบาะจยย.แล้วเดินแยกออกไป จากนั้นน.ส.สาม ก็ได้ขับรถไปหาผู้เสียหายบริเวณท่าน้ำปากเกร็ดตามที่ได้นัดหมายไว้
ถัดมากล้องวงจรปิดบริเวณท่าน้ำปากเกร็ด บันทึกภาพคนร้ายเป็นชาย 2 ราย รายหนึ่งสวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนสีดำ ส่วนอีกรายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์สีดำ ได้วิ่งถือมีดไล่ฟันผู้เสียหายจนกระทั่งจนมุมถึงบริเวณท่าเรือข้ามฟากท่าน้ำปากเกร็ด ทำให้ผู้เสียหายต้องกระโดดแท่น้ำเจ้าพระยาหนีตาย ก่อนทางผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธมีดปา และหมวกกันน็อค ใส่ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ในน้ำ
นายบุญนาค กล่าวว่า ตนได้พูดคุยแชททางโทรศัพท์มือถือกับทางแฟนเก่าชื่อน.ส.สาม โดยได้มีการนัดเจอกันที่ท่าน้ำปากเกร็ด เพราะว่าทางแฟนเก่าตนได้อ้างว่าจะนำกระเป๋าสภายของพี่สาวมาคืนเพราะเคยยืมไปเมื่อตอนคบกันมาตอน 1 ปี ที่แล้ว ตนจึงได้พูดคุยกันโดยมีการนัดเจอกันที่บริเวณท่าน้ำปากเกร็ดเวลา 05.00 น. จากนั้นตนก็ได้เดินทางมาตามนัดโดยยืมโทรศัพท์ของพี่สาวตนมา 1 เครื่อง เป็นไอโฟน 11 เพราะว่าโทรศัพท์ตนพัง พอตนมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้พบกันยังไม่ทันได้พูดคุย ก็ได้เดินพาตนไปกดเงินที่ตู้ atm และก็อ้างจะพาตนไปกินข้าวแต่ตนปฎิเสธ ทางแฟนเก่าตนจึงเดินไปซื้อน้ำดื่มมา 1 ขวด พร้อมนมอีกหนึ่งกล่อง ก็นั่งกินด้วยกันจนหมด จากนั้นแฟนเก่าตนก็บอกกับตนว่าขอตัวไปกินข้าวในตลาด โดยฝากกระเป๋าพี่สาวไว้กับตน พร้อมพูดว่า “ไม่ต้องกลัวหลอก หนูยังไม่กลับ ” ตนจึงบอกไปว่าไม่ได้กลัวอยากจะกลับก็กลับไป หลังจากนั้นไม่นานได้มีชาย 2 คน ขี่จยย.วนผ่านตนหลายรอบ ตนก็คิดว่าไม่มีอะไร ขณะที่ตนกำลังจะเดินกลับบ้าน ชาย 2 คนดังกล่าวได้วิ่งถือมีดไล่ฟันตน ตนตกใจจึงรีบวิ่งหนีตายไปยังท่าเรือท่าน้ำปากเกร็ด จนกนะทั่งจนมุมรีบวางโทรศัพท์ของพี่สาวไว้ที่โป๊ะเรือแล้วกระโดดลงน้ำในเวลาต่อมา จากนั้นทางผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายก็ไม่หยุดได้ใช้อาวุธมีดที่ถือมาพร้อมหมวกกันน็อคปาใส่ตนขณะที่กำลังว่ายน้ำหนีตาย พร้อมพูดคำว่า ” มึงจำไว้กูชื่อแบงค์ วันนี้มึงพลาดเองกูออกมารอมึงหลายวันแล้ว เดี๋ยวมึงเจอกูอีกกูจะมารอทุกวัน ” ตนจึงรีบว่าน้ำไปกว่า 300 เมตร ไปขึ้นที่โป๊ะเรือวัดเตยก่อนจะโทรหารุ่นพี่ให้มาช่วยในเวลาต่อมา
ต่อมาตนจึงไปขอกล้องวงจรปิดเปิดดูพบว่าชายเสื้อสีน้ำเงินเป็นคนด่าตนและปามีดใส่ ส่วนเสื้อสีดำแขนยาว เป็นแฟนใหม่ของ น.ส.สาม ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยมีแฟน 2 คน ชื่อ น.ส.สาม และ น.ส.แพร กินนอนอยู่บ้านเดียวกัน 3 คน แล้วได้เลิกรากันไปพร้อมกัน โดยน.ส.แพร ที่ตนเลิกไปเป็นคนยืมกระเป๋าพี่สาวไปแต่ให้ทางน.ส.สาม มาเป็นนกต่อนัดตนเอากระเป๋ามาคืนแทน ส่วนทางน.ส.แพรล่าสุดก็คบกันกับคนชื่อแบงค์เสื้อน้ำเงินที่มาทำร้ายตน ซึ่งตนเคยมีการแชทคุยมีปากเสียงกันกับคนชื่อแบงค์ที่ไล่ฟันตนมาก่อน จึงคิดว่าทั้งสองหึงหวงจึงเป็นสาเหตุมารุมทำร้ายตนในวันนี้ ตอนนี้ตนได้แจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ด อยากให้ตำรวจรีบนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทางด้านน.ส.สุกัญญา ออละไม พี่สาว อายุ 21 ปี เจ้าของโทรศัพท์มือถือ กล่าวว่า วันเกิดเหตุน้องชายตนยืมโทรศัพท์ไปเล่นเพราะโทรศัพท์ของน้องหน้าจอมองไม่เห็น โดยปกติแล้วจะยืมโทรศัพท์ตนเล่นทุกวัน เมื่อเช้าที่ผ่านมาน้องชายยืมได้ยืมโทรศัพท์ไป ตนมาทราบทีหลังว่าน้องชายถูกไล่แทง โดยมีการวางโทรศัพท์ไว้ที่โป๊ะเรือก่อนกระโดดลงน้ำ ตนจึงออกมาดูในที่เกิดเหตุก็ไม่เจอแล้ว โทรศัพท์ของตนเป็น iPhone 11 ตนโทรติดต่อเข้าเบอร์ของตนแต่ไม่มีใครรับก่อนจะปิดเครื่องหนี ตนอยากได้โทรศัพท์คืนเพราะต้องทำงานทางน้องชายได้บอกว่ามีคนเห็นผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน หยิบมือถือของตนไป
น.ส.สุกัญญา กล่าวต่ออีกว่า ส่วนประเด็นแฟนเก่าน้องชายชื่อน.ส.สามตนไม่เคยทะเลาะกับแฟนเก่าน้องชาย แต่เขายืมกระเป๋าไปเมื่อปีที่แล้วตนเคยทักทวงไปตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่ได้คืน แต่ตอนเช้าทักมาหาน้องตนว่าจะเอากระเป๋ามาคืนก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ โดยกระเป๋าเป็นกระเป๋าสะพายผู้หญิงธรรมดาไม่มีอะพิเศษ ตอนนี้ตนก็ยังเป็นห่วงน้องชาย และอยากได้โทรศัพท์.
Discussion about this post