ล้อมระทึก 7 ชั่วโมงชายคลั่งยิงแม่นสวนตำรวจสาหัส 1 นาย

เกิดเหตุระทึก ในพื้นที่ สภ.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ชายวัย 40 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะระงับเหตุอาการคุ้มคลั่ง ขู่จะเผาบ้าน กระสุนพุ่งเจาะเข้าหน้าผากได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนตรึงกำลังหว่านล้อมให้มอบตัวนานกว่า 7 ชม. โดยใช้รถดับเพลิงและเฮลิคอปเตอร์บินกดดัน ก่อนยอมมอบตัว

วันที่ 7 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุปะทะสุดระทึกนานกว่าครึ่งวัน เหตุชายวัย 40 ปี ซึ่งมีลักษณะอาการคล้ายคนคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนไทยประ ดิษฐ์ เปิดฉากยิงต่อสู้และขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเข้าระงับเหตุคลุ้ม คลั่งและขู่จะเผาบ้าน ในพื้นที่ สภ.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยเบื้องมีรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากการถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณหน้าผาก ก่อนถูกนำตัวส่งที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์อย่างเร่งด่วน ขณะที่ชายคนดังกล่าวยังซ่อนตัวอยู่ภายในตัวบ้าน ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้านหนองบัวสามัคคี ต.แซงบาดาล โดยพยายามยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ ก่อนที่กระสุนอีก 1 นัด จะพุ่งเข้าใส่บริเวณหน้าขาขวาของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 นัด โชคดีที่กระสุนนัดดังกล่าวถูกแมกกาซีนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เกลี้ยกล่อมได้สำเร็จและยอมมอบตัวแล้ว หลังใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 7 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เหตุการณ์ยิงปะทะดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุ นายไพรัตน์ สุรันนา ชาวบ้านหนองบัวสามัคคี มีอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด และขู่จะเผาบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แซงบาลดาล 3 นาย นำโดย ร.ต.ต.วีระยุทธ จิตพงษ์ รอง สว. (ป) สภ.แซงบาดาล เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จึงเดินทางไประงับเหตุ ก่อนที่จะถูกนายนายไพรัตน์ ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงสวนออกมา กระสุนพุ่งเข้าที่บริเวณหน้าผาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนประสานกู้ชีพ กู้ภัย ช่วยเหลือ ร.ต.ต.วีระยุทธ ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยหลังได้รับแจ้งเหตุ

พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการทางวิทยุ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.กาฬสินธุ์ (S.W.A.T.) เร่งลงพื้นที่สนับสนุนตำรวจท้องที่ รวมกว่า 50 นาย โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลแซงบาดาล เข้าประชิดพร้อมฉีดน้ำเข้าตัวบ้านเพื่อให้ผู้ต้องหาอารมณ์เย็นและจะได้ยอมมอบตัว นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอป เตอร์จากสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 4 จำนวน 1 ลำบินวนเวียนเหนือน่านฟ้า บริเวณบ้านที่ผู้ต้องหาซุ่มตัวอยู่เพื่อกดดัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินใช้โทรโข่งเพื่อเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธและมอบตัว แต่สถานการณ์ยังอยู่ในความตึงเครียด จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 17.00 น.ผู้ก่อเหตุคือนายไพรัตน์ จึงยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ควบคุมตัวไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับ ร.ต.ต.วีระยุทธ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ถูกยิง และนำส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พบมีบาดแผลที่บริเวณหน้าผาก ล่าสุดได้รับการรักษา อาการพ้นขีดอันตราย แต่แพทย์ยังเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด.