แรงงานไทยในมาเลย์แห่กลับบ้านฉลองรายอเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มแนวชายแดนใต้

ยะลา –แรงงานไทยในมาเลเซียข้ามแดนกลับชายแดนใต้ด่านอำเภอเบตง จ.ยะลา เตรียมฉลองรายอ ด้านนายอำเภอเบตง สั่งเพิ่มความเข้มในการลาดตระเวนตามแนวชายแดนสกัดลักลอบข้ามแดนบุคคลมีหมายจับหวั่นเข้ามาก่อเหตุก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฏอน

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.66 ในช่วงใกล้เทศกาลฮารีรายออีฎิลฟิตรีของพี่น้องชาวไทยมุสลิม บรรยากาศที่บริเวณด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อำเภอเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวไทยมุสลิมที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งได้เดินทางข้ามแดนไปขายแรงงานตามเมืองต่างๆ ของมาเล เซีย ได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน เพื่อเตรียมมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลรายออีฎิฟิตรี ทำให้บรร ยากาศที่บริเวณด่านพรมแดน อ.เบตง เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและแรงงานไทยในมาเลเซีย ต่างยืนต่อคิวประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศเป็นแถวยาว

ด้านนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง อำนวยการสั่งการให้ จนท.ฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วม ทหาร ตำรวจ ตชด. ลาดตระเวนเส้นทางตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันบุคคลมีหมายจับ ความมั่นคง ลักลอบข้ามแดน เข้ามาในช่วงนี้ นอกจากนี้ได้กำชับให้ตั้งด่านตรวจเส้นทางสายรอง ตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงการตรวจของเจ้าหน้าที่ ที่ตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลัก

ภายหลังเกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชาย แดนภาคใต้ ก่อนที่จะสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ล่าสุดเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่วางไว้ข้างเสาไฟฟ้าแบบเร่งด่วน ใกล้หัวสะพานบ้านตอออ ม.1 ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ขณะที่ จนท.ชุดเฝ้าตรวจ (ชฝต.4410) ร้อย.ปชด.2 กำลังขี่รถ จยย.3 คัน 6 นาย ออกลาดตระเวนเส้นทาง แรงระเบิดทำให้ ส.ต.ต.นันทยศ บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่ รพ.แว้ง ในเวลาต่อมา

นายอำเภอเบตง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงในการป้องกันต้องอาศัยความมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสผู้กระทำผิด หรือบุคคลที่มีพฤติ กรรมต้องสงสัย ให้แจ้งจนท. ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่ตั้งด่านตรวจ ทันที ทั้งนี้เพื่อความสุขของพี่น้องประชาชนและความสงบอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้.