‘อนุทิน’ เปิดเวทีปราศรัย โต้เพื่อไทยหลังถูกโจมตีนโยบายกัญชาเสรีอย่างหนัก

วันที่ 4 พ.ค.66 นายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยที่นครพนมรวมเวที โดยเริ่มที่เวทีแรกจัดปราศรัยที่ หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 4 เขตเทศบาลเมืองนครพนม พื้นที่เขต 2 ซึ่งมีนายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) ลงสู้ศึกในเขตนี้ ปราศรัยเรียกน้ำย่อย และมี นางพูนสุข โพธิ์สุ ผู้สมัครเขต 1 นายแพทย์อลงกต มณีกาศ ผู้สมัครเขต 3 มาร่วมเวทีด้วย โดยมีผู้เข้าร่วมฟังการปราศรัยประมาณ 3 พันคน
นายอนุทิน ชาญวีระกุล กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า มีคนให้ร้ายเรื่องกัญชา พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ทำเรื่องกัญชาเสรี คำว่ากัญชา นโยบายให้เข้าถึงประชาชน ให้มาใช้รักษาโรค เป็นยา เป็นพืชเศรษฐกิจ ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม ไม่ใช่กัญชาเสรี นครพนมได้ประโยชน์อย่างมหาศาล ทำบัญชียาหลักทางด้านสมุนไพร รักษาความเจ็บป่วยโดยน้ำมันกัญชา ใช้ทางการแพทย์ ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะทำเรื่องกัญชา มีมากกว่านี้ ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจเขากลัวพรรคเรามีความนิยมมากขึ้น โดยเจาะจงให้ร้ายพรรคภูมิใจไทยที่นครพนม เนื่องเพราะเคยประกาศให้เป็นมหานครแห่งกัญชา กัญชาถ้าใช้ถูกต้องก็ มีประโยชน์ มีกฎหมายควบคุม แต่บางพรรคได้ดึงกฎหมายกัญชาเอาไว้ กลัวประชาชนจะนิยมพรรคภูมิใจไทยมากขึ้นนั่นเอง คนป่วยโรคมะเร็งได้หยอดน้ำมันกัญชา อย่างน้อยสามารถกินอาหาร มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ต่อให้ไม่รอด ความเจ็บปวดก็น้อย การใช้อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ถ้าได้อนุทินเป็นนายกคนไทยจะปลอดภัย ปลอดโรค มีความสุข ถ้าจะให้รับใช้ก็เลือกมาเยอะ ๆ ถ้าเลือกไม่เยอะ เราก็ต้องเคารพในกติกา การกล่าวหาพรรคใด ๆ ไม่ใช่วิถีทางของพรรคภูมิใจไทย เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้

ส่วนเวทีที่สองจัดปราศรัย ที่อ่างเก็บน้ำดอนตาทอง ต.หนองสังข์ อ.นาแก ซึ่งมีนายชูกัน กุลวงษา ผู้สมัครเขต 4 คอยให้การต้อนรับและหลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปยังเวทีที่ 3 ที่จัดขึ้นที่บริเวณวิทยาลัยการอาชีพธาตุพนม อ.ธาตุพนม แต่ละที่มีประชาชนประมาณ 4 พันคนร่วมฟังการปราศรัยหาเสียง
โดยในการเปิดเวทีปราศรัยครั้งนี้ เพื่อหวังเรียกคะแนนคืนหลังจาก ที่พรรคภูมิใจไทยถูกปราศรัยโจมตีนโยบายของพรรค โดยเฉพาะเรื่องกัญชา เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา จนนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายอดิศร เพียงเกษ และนายณัฐวุฒิ ไสเกื้อในข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณาใส่ร้าย และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ตนและพรรคภูมิใจไทยได้รับความเสียหาย และจะเข้าร้องเรียนต่อ กกต. จ.นครพนม ให้ดำเนินการกับผู้สมัครและพรรคเพื่อไทยตามกฎหมายเลือกตั้งต่อไป โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ การปรา ศรัยของบุคคลเหล่านี้ทั้งหมด มอบให้กับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน.