กาฬสินธุ์ตรวจสอบจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวยืนยันไม่พบทุจริต

จากกรณีเกิดกระแสข่าว อธิบดีกรมการข้าวสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2566 งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ดำเนินการทั่วประเทศ อาจส่อทุจริต หลังมีผู้ร้องเรียนว่า เบิกจ่ายเมล็ดพันธุ์เกินสิทธิที่เกษตร กรได้รับ และเกษตรกรที่มีชื่อรับเมล็ดพันธุ์กลับไม่ได้รับจริง โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ ได้เร่งติดตามตรวจสอบผลการดำเนินโครงการ ขณะที่เกษตรกรมีความต้องการเมล้ดพันธุ์ข้าวเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เพียงพอ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม 2566
นายฉันทลักษณ์ ฆารไสว ผู้อำ นวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬ สินธุ์ กล่าวว่าสำหรับโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2566 ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬ สินธุ์ ได้ดำเนินการจัดสรรให้กับเกษตรกรกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการ เกษตร ทั้งที่เป็นสมาชิกของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ กลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชน และกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ประกอบด้วยข้าวจ้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 800 ตัน จำหน่ายราคา ก.ก.ละ 5 บาท และข้าวเหนียวพันธุ์ กข 6 จำนวน 200 ตัน จำหน่ายราคา ก.ก.ละ 4 บาท รวมข้าวทั้ง 2 ชนิดจำนวน 1,000 ตัน ทั้งนี้ ใช้เกณฑ์ในการจัดให้เกษตร กรรายละไม่เกิน 30 ไร่ เฉลี่ยใช้เมล็ดพันธุ์ไร่ละ 15 ก.ก.

นายฉันทลักษณ์ กล่าวอีกว่า กรณีกรมการข้าวได้รับเรื่องร้องเรียนว่า โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว มีการเบิกจ่ายเมล็ดพันธุ์เกินสิทธิที่เกษตรกรได้รับ มีเกษตรกรบางคนสามารถซื้อเมล็ดพันธุ์ได้เกินกว่าสิทธิ์ ขณะที่เกษตรกรบางคนอ้างว่ามีชื่อรับเมล็ดพันธุ์แต่ไม่ได้รับจริง เป็นกระแสข่าวจากทั่วประเทศ ไม่ได้เจาะ จงจังหวัดหนึ่งจังหวัดใด ในขณะที่ทางกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางมาร่วมตรวจสอบ ตามคำสั่งของอธิบดีกรมการข้าว ที่กำหนดให้มีการสรุปผลการตรวจสอบภายใน 15 วัน หากพบผู้กระทำผิดจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เอาผิดทั้งวินัยและอาญาทันที ทั้งนี้ ในส่วนของศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวกาฬสินธุ์ ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบเช่นกัน และรายงานผลการตรวจสอบต่ออธิบดีกรมการข้าวทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ โดยจากการตรวจสอบ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่พบมูลการทุจริตโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวแต่อย่างใด.