
วันนี้ 25 สิงหาคม 2566 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายพัฒนา ชื่นยง ที่ปรึกษาสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา พร้อมด้วยพ่อค้าแม่ค้าชาวตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิงจังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 20 คน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการเข้าตรวจคันและจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 3 และกลุ่มผู้แอบอ้างเป็นพนักงานตำรวจโดยมีนายสมเกียรติ จันทร์แดง รอง ผอ. ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ ลงมารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พร้อมจะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ในหนังสือร้องเรียน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดดังกล่าว เข้ามาตรวจค้นจับกุมผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม และลูกจ้างแรงงานชาวกัมพูชา ณ ตลาดชายแดนช่องจอม และมีกลุ่มผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแสวงหาประโยชน์อันไม่ชอบด้วยกฎหมายใช้อำนาจข่มขู่ ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดชายแดนช่องจอม และลูก จ้างแรงงานชาวกัมพูชา เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ของผู้ประกอบการชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชา และมีผู้ประ กอบการและแรงงานชาวกัมพูชา เกิดความหวาดกลัว ย้ายกลับประเทศ และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในประเทศพูชา ให้ระมัดระวังการมาตลาดชายแดนช่องจอม ส่งผลกระทบต่อการค้าขายตลาดช่องจอม เป็นอย่างมากในขณะนี้
สมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา ประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทน ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดชายแดนช่องจอม และลูกจ้างแรงงานชาวกัมพูชา ว่าได้เดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสอบสวนตำรวจภูธร ภาค ๓ และมีกลุ่มผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 3 โดยพฤติการณ์ เจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสอบสวนตำรวจภูธร ภาค3เข้ามาตรวจคันจับกุมผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดชายแดนช่องจอม และลูกจ้างแรงงานชาวกัมพูชา ณ ตลาดช่องจอม และมีกลุ่มผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแสวงหาประโยชน์อันไม่ชอบด้วยกฎหมายใช้อำนาจข่มขู่ ผู้ประ กอบการพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดชายแดนช่องจอม และลูกจ้างแรงงานชาวกัมพูชา เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ของผู้ประกอบการชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชา และมีผู้ประกอบการและแรงงานชาวกัมพูชา เกิดความหวาดกลัว ย้ายกลับประเทศ และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในประเทศพูชา ให้ระมัดระวังการมาตลาดชายแดนช่องจอม ส่งผลกระทบต่อการค้าขายตลาดช่องจอม และการท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องเคยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 17เมษา ยน 2566 ไปแล้ว แต่เรื่องเงียบไม่ปรากฎความคืบหน้าแต่อย่างใด แต่สถานการณ์กลับรุนแรงขึ้น มีการเข้าตรวจคันจับกุมทั้งของเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่อ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ โดยมีการเข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 โดย พ.ต.อ.ศรีอรุณ รอง ผบก.3, พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล สั่งการให้ พ.ต.ท.ญาณกร ตรีเทพา รอง ผกกฯ และชุดตรวจค้นจับกุม โดยข้าพเจ้าได้รับข้อมูลจากผู้ประกอการบางรายให้ข้อมูลว่าการตรวจค้นจับกุมดังกล่าว อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีการปล่อยผู้กระทำความผิด และหรือมีการข่มขู่เพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ตรวจสอบการกระทำของคณะบุคคลตังกล่าว และบุคคลที่แอบอ้างโดยอาศัยอำนาจของคณะบุคคลดังกล่าว ซึ่งพฤติกรรมของคณะบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าว กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ และประชาชน ผู้มาซื้อสินค้าบริเวณตลาดชายแดนช่องจอม ผู้ประกอบการปิดร้านเพราะเกรงกลัวการยัดเยียด ข้อกล่าวหา หรือการแสวงหาประ โยชน์ของกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังกล่าว ทางสมาคมมิตรภาพไทย – กัมพูชา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการช่วยเหลือเพื่อมีให้กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อันเป็น การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดสุรินทร์ และเป็นประโยชน์ส่วนรวมต่อประเทศชาติ ลงชื่อนายพัฒนา ชื่นยง ที่ปรึกษาสมา คมมิตรภาพไทย-กัมพูชา
นายพัฒนา ชื่นยง ที่ปรึกษาสมา คมมิตรภาพไทย-กัมพูชา กล่าวว่า ตนได้เข้ามาร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีประ ชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาร้องว่ามีตำรวจภูธรภาค 3 บางกลุ่ม ไปกระทำการจับกุมในบริเวณชายแดนช่องจอม ซึ่งจับกุมถี่มากในช่วงนี้ มีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า ทางตลาดการค้าช่องจอม ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุ การณ์เช่นนี้ การมาจับกุมก็สามารถทำได้ แต่การจับกุมต้องจับกุมด้วยเหตุผล และวัตถุประ สงค์ ตนไม่เชื่อว่านายจะรู้ทุกเรื่อง เวลามาจับกุมก็อ้างแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้บัญชาการสั่งมา ตนอยากให้สื่อช่วยตรวจสอบด้วยว่า สินค้าที่เอาไปตรวจสอบ เอาไปไว้ที่ไหน จับ 3 ดำเนินคดี 2 จับ 2 ดำเนินคดี 1 อยากให้ไปตรวจสอบดูว่ามีหรือไหม
ล่าสุดก็มีคนมาแอบอ้าง ตนเคยมาร้องเรียนเรื่องนี้แล้ว ก็ยังมีอีกพฤติ การณ์เนียนกว่าเก่า หนักกว่าเก่า วันนี้มาจับกุมถี่มาก เดือนละครั้งถือว่าหนักอยู่แล้ว มาหลังๆนี้เดือนหนึ่งมาจับถึง 2 ครั้ง คืออะไร เข้าใจคุณมีอำนาจในการจับกุม แต่ใช้อำนาจการจับกุมเหมะสมหรือไม่ มีผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่ ตนเข้าใจการบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนรับได้ แต่ก็เป็นห่วงว่าจะใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการปฎิบัติหน้าที่โดยหวังผลประโยชน์อะไรหรือเปล่า ล่าสุดนี้ถึงขั้นมีการเอาสินค้าไปตรวจสอบ สินค้ามีเป็นรถ 10 ล้อ ตนมีหลักฐานเป็นรูปให้เห็น ก็ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เห็นแล้ว อยากรู้ว่าเอาไปไว้ที่ไหน ประเมินด้วยสายตามูลค่าเป็นล้าน ฝากถามไปยังท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีด้วยหรือที่ท่านให้ลูกน้องมาตรวจสอบ โดยการนำสินค้าไปตรวจสอบก่อน แล้วให้มาคืนที่หลัง มีด้วยหรือ โดยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ร้องเรียนมา จึงได้นำเรื่องดังกล่าวมายื่นร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้รับทราบ เพื่อให้ตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มาแอบอ้าง และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป ทั้งนี้การตรวจจับขนสินค้าไป บางชิ้นที่มีลิขสิทธิ์ก็ดำเนินการไปตามกฏหมาย บางชิ้นอ้างจะนำไปตรวจสอบก่อน โดยอ้างกฏหมาย มอก.สคบ.เอาทุกอย่าง และการนำสินค้าที่ไม่ผิดไปตรวจสอบสามานถทำได้หรือไม่ แถมไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมตรวจสอบ ที่สำคัญเอาไปแล้วสินค้าอยู่ไหนของกลับมาครบหรือไม่ และของที่จำหน่ายในตลาดส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องเสียง หลอดไฟ หลอดไฟโซล่าเซลล์สินค้าอุปกรณ์เสริมอิเล็คทรอนิกส์ เทคโนโลยีต่างๆก็จับเอาไปทั้งหมด ไม่รวมสินค้าอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้าที่มีจำหน่ายและถูกยึดไปกว่า 3 รถบรรทุกเหมือนที่มีขายตามตลาดต่างๆทั่วประ เทศ ที่อื่นมีการปฏิบัติเหมือนกันหรือไม่ และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็พึ่งได้รับผลกระทบจากสถาน การณ์โควิด-19 กำลังจะฟื้นตัวก็มาถูกจับบ่อยครั้ง ขณะที่ชาวกัมพูชาลงเฟชแชร์เตือนกัน ทำให้ชาวกัมพูชาไม่กล้าข้ามแดนมาเที่ยวซื้อสินค้าและรับจ้างในไทย ยิ่งทำให้เศรษฐกิจชายแดนซบเซา ชาวไทยค้าขายไม่ได้ เกิดผลกระทบในวงกว้างบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจึงรวมตัวมาร้องเรียนเพือขอความเป็นธรรมและให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วย หากไม่มีความคืบหน้าพ่อค้าแม่ค้าก็จะเดินหน้าร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องต่อไป นายพัฒนาฯ กล่าว
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์
Discussion about this post