วันที่ 5 ก.ย.2566 เวลา 08.30 น. ณ ห้องคอนเวนชั่น 2-3 โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการเปิดการเสวนาขับเคลื่อนภาคเกษตรอีสาน ให้ “เปลี่ยนผ่าน” สู่ความยั่งยืน โดยมี ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนัก งานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท.สภอ.) พร้อมคณะผู้บริหาร ธปท.สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กลุ่มนักธุรกิจ ภาครัฐ-เอกชน แขกผู้มีเกียรติในจังหวัดขอนแก่น และสื่อมวลชนทุกแขนงใน จ.ขอนแก่น ร่วมงานเสวนากันอย่างคับคั่ง

โดย ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท.สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เสวนาในหัวข้อ ชวนคุยทิศทางเศรษฐกิจ… ชวนคิดปรับโครงสร้างภาคเกษตรอีสาน ภายใต้บริบทสื่อสารพัฒนาการเศรษฐกิจอีสานในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ต่อวิกฤตภาคเกษตรและเสนอทิศทางการปรับตัว ต่อด้วยการจัดสนทนากับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ โดยมีคุณศิรัถยา อิศรภักดี The Standard Wealth เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมปิดท้ายการสนทนาด้วยการถามและตอบคำถาม Q & A ให้กับสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานได้ไขข้องข้องใจเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในภาพรวมอีกด้วย
ในเวลาต่อมาได้มีการจัดเสวนาอย่างต่อเนื่อง ในหัวข้อหลักของการจัดเสวนาครั้งนี้ คือ ขับเคลื่อนภาคเกษตรอีสาน ให้ “เปลี่ยนผ่าน” สู่ความยั่งยืน ภายใต้บริบทสื่อสารทิศทางกระแสโลก(Mega Trends) อัปเดตสถานการณ์ภาคเกษตรปัจจุบัน และเสนอแนะทางออกเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืน ร่วมเสวนาโดย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) รศ.ดร.ภูมิสิทธิ์ มหาสุวีระชัย อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คุณมานพ แก้วโกย ผู้บริหาร หจก.เนเจอร์ฟู้ดโปรดักส์แอนด์มาร์เก็ตติ้ง และ ดร.โสมรัศมี จันทรัตน์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๊วย อึ้งภากรณ์
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กล่าวสรุปปิดท้ายงานเสวนาครั้งนี้ว่า “เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาคการท่องเที่ยว แม้ว่า GDP ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ออกมาต่ำกว่า คาดจากอุปสงค์ต่างประเทศเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดีแนวโน้มปีนี้ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว ทั้งนี้ ธปท.จะเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ในเดือน ก.ย.2566 คาดว่าจะปรับลดลงจากภาคการผลิตและการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวช้ากว่า คาดจากการชะลอของเศรษฐกิจจีนและ Global Electronic Cycle ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวภาพรวมยังเพิ่มขึ้นได้ตามคาด แม้นักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวช้า คาดว่าอุปสงค์ในประเทศยังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน รายได้และการจ้างงานนอกภาคเกษตร ล่าสุดเดือน ก.ย.2566 ยังอยู่ในทิศทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”
สำหรับเศรษฐกิจภาคอีสานฟื้นตัวช้ากว่าประเทศและทุกภาค เนื่องจากประเทศและภาคอื่นมีภาคการท่องเที่ยวมาสนับสนุน ขณะที่อีสานยึดโยงกับภาคเกษตร ซึ่งมีปัจจัยกดดันจากภัยแล้ง สำหรับทางนโยบายการเงินมาถึงจุดเปลี่ยนจากดูแลให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ไม่สะดุดมาเป็นมุ่งเน้นดูแลเศรษฐกิจโดยรวมให้สอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อ (1-3%)และศักยภาพเศรษฐกิจในระยะยาว(3-4%) ซึ่งมองว่ามีแนวโน้มเข้าใกล้จุดสมดุลแล้ว ด้านปัญหาหนี้ครัวเรือนภาคอีสานมีภาระหนี้เฉลี่ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนมากที่สุด โดยเฉพาะหนี้ภาคเกษตรที่โตเร็วมากที่สุดในรอบ 6 ปีเมื่อเทียบกับภาคอื่น และมีโอกาสจะกลายเป็นหนี้เรื้อรังที่ไม่สามารถปิดจบได้ รวมทั้งภาพรวมหนี้อีสานมีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนสูงกว่าภาคอื่น ซึ่ง ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยได้ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ให้ตรงจุดและยั่งยืนต่อไป..
Discussion about this post