เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนนรวมถึงในสื่อสังคมออนไลน์ว่าโครงการก่อสร้างถนนสายอ่าวลึก-พังงา ในพื้นที่ตำบลมะรุ่ย อ.ทับปุด จ.พังงา มีการก่อสร้างปรับปรุงพื้นผิวจราจร ผ่านมานานมาหลายเดือนแล้วแต่ยังไม้เสร็จสักที แถมยังมีความคืบหน้าแต่อย่างใด สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เกษตรกรและผู้ที่ใช้รถใช้ถนน ที่ใช้สัญจรไปมา รวมถึงแม่ค้าขายข้าวหลามริมทางที่มีอยู่กว่า70ร้าน ที่ขายไม่ได้จนต้องหยุดขายไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ได้ลงภาพรถที่เสียหายจากการใช้ถนนเส้นนี้ บางคันล้อแม็กซ์แตก ยางรถยนต์เสียหาย และรถติดโคลนซีเมนต์ที่ล้างออกได้ยาก ซึ่งบอกได้ว่าเดือดร้อนกับแบบทั่วหน้าเลยจริงๆ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็นถนนสายอำเภออ่าวลึก จ.กระบี่-ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา บริเวณตั้งแต่สะพานปากลาว-สี่แยกมะรุ่ย-สถานีบริการน้ำมันเชลล์ ระยะทางประมาณ3.5 กิโลเมตร พบว่าสภาพถนนมีการปรับพื้นผิวตลอดทั้งเส้น ไม่มีเครื่องจักรทำงาน ไม่มีไฟสัญญาน ป้ายเตือนการก่อสร้างมีน้อยมาก มีแต่รถน้ำวิ่งพ่นน้ำไปมากันฝุ่น มีเครื่องจักรจอดอยู่ข้างทาง2คันไม่มีการใช้งาน ไม่มีคนงานทำงาน สภาพพื้นผิวขรุขระฝุ่นตลบ มีรถใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านข้างทางบางคนได้ต่อท่อออกจากบ้านมาพ่นน้ำลดฝุ่น ด้านข้างถนนมีร่องรอยของน้ำโคลนซีเมนต์เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบป้ายโครงการก่อสร้างพบว่าเป็นโครงการก่อสร้างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ชื่อโครงการปรับปรุงถนนแอสฟัลท์คอนกรีต สายบางทราย-บ้านลาน ขนากกว้าง12 เมตร ยาว 3,510 เมตร หรือมีพื้นที่รวมไม่น้อยกว่า 42,120 ตารางเมตร เชื่อต่อถนนสายอ่าวลึก-กระบี่ 1สาย สัญญาเลขที่20/2566 เริ่มต้น28มีนาคม 2566 สิ้นสุดสัญญาวันที่23 กันยายน 2566 ระยะเวลา180วัน วงเงิน23,610,000 บาท มีผู้รับเหมาเป็นบริษัทใหญ่จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นางสุทิศา ชูวงศ์ แม่ค้าขายข้าวหลาม กล่าวว่า ถนนสายนี้สร้างมานานแล้วแต่ยังไม่เสร็จเสียที ขายข้าวหลามก็ยากเป็นอย่างมาก แต่เดิมมีคนขายข้าวหลาม2ข้างทางกว่า70 ร้าน ตอนนี้เหลือไม่ถึง20ร้าน ยอดขายลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง เพราะการก่อสร้างทำให้รถจอดซื้อยาก ใช้รถใช้ถนนก็ลำบาก บางคนก็เจ็บป่วยจากฝุ่น จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเร่งให้มีการก่อสร้างให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว
นายสานิตย์ สวัสดี อายุ37 ปี เกษตรกรในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตอนนี้รู้ลำบากมากตั้งแต่เช้าๆไปส่งลูกเรียนหนังสือในเมือง เกษตรกรนำสินค้าไปขาย และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดพังงา เพราะปัจจุบันถนนเส้นนี้ได้เป็นถนนสายหลักในการเดินทางจากจังหวัดกระบี่เข้าสู่จังหวัดพังงา แต่ละวันมีรถสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก การก่อสร้างดูแล้วไม่มีความคืบหน้ามีแต่การรดน้ำอย่างเดียวมา3-4เดือนแล้ว ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตก แถมบางครั้งก็มีการนำน้ำปูนซีเมนต์มาราดบนถนนอีก จึงทำความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้ถนนเป็นอย่างมาก บางคันล้างไม่ออกหรือต้องไปจ้างร้านล้างอัดฉีดล้างให้ ไฟสัญญานที่ก่อสร้างก็ไม่มี ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้กับผู้ใช้เส้นทางมาแล้วหลายราย จากการสอบถามทราบว่าเดิมถนนเส้นนี้เป็นของทางหลวงชนบทพังงาและได้ถ่ายโอนให้อบจ.พังงา และได้มีการขอให้มอบคืนให้กับทางหลวงชนบทพังงาเพราะทางหลวงชนบทกระบี่ได้ปรับปรุงเป็นถนนอย่างดีจากอำเภออ่าวลึกจนมาถึงรอยต่อระหว่างจังหวัดแล้ว ทางหลวงชนบทพังงาจึงต้องการเอากลับไปดูแลสร้างให้เหมือนกันเชื่อมต่อระหว่าง2จังหวัด เพราะปัจจุบันได้เป็นถนนสายหลักของนักเดินทางแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไร อบจ.พังงาจึงไม่ส่งมอบคืนให้แขวงทางหลวงชนบทพังงาซึ่งเขามีงบประมาณการดูแลที่พร้อมกว่า ตอนนี้ก็อยากจะขอให้ทาง อบจ.พังงาเร่งรัดให้ผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว อย่าให้ชาวบ้านเดือดร้อนมากกว่านี้เลย
นายสุริยา หัสนีย์ ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเชลล์ กล่าวว่า ตอนนี้เดือดร้อนมากเมื่อก่อนยอดขายวันละ6-7,000ลิตร ตอนนี้เหลือเพียงวันละ1,000กว่าลิตรเท่านั้น ทำให้ต้องแบกภาระค่าบริหารจัดการทั้งค่าผ่อนธนาคาร ค่าลูกน้อง ค่าภาษีต่างๆ ซึ่งต้องจ่ายทุกเดือน และในสถานีได้เป็นร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว รับกรุ๊ปนักท่องเที่ยว ที่มียอดบุ๊คกิ้งรับนักท่องเที่ยวเดือนละหลายร้อยคน โดยเฉพาะที่จองมาแล้วในเดือนนี้ก็หลายร้อยคน ถ้าถนนยังเป็นแบบนี้อาจจะมีการยกเลิกได้ และก็ทราบว่าขณะนี้ก็หมดสัญญาก่อสร้างแล้ว จึงก็วิงวอนให้ อบจ.พังงาเข้ามาจัดการเร่งรัดให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำให้เสร็จเสียที อย่าให้ชาวบ้านต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการใช้ถนนที่ทำให้รถเขาเสียหาย ซึ่งค่าปรับจากการทำงานล่าช้านั้น เทียบไม่ได้กับความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
Discussion about this post