ศาลจังหวัดมุกดาหาร เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดี ‘น้องชมพู่มา

วันที่ 31 ต.ค.66 เวลา 10.00 น. นายอนามัย วงศ์ศรีชา และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อแม่ของเด็กอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ พร้อมด้วยนาย พิสิษฐ์ ตรัยเจริญเมธากุล ทนายความ ฝ่ายโจทก์ ได้ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดา หาร เพื่อฟังคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ซึ่งมาตามศาลจังหวัดมุกดา หารได้นัดมาฟังคดีดังกล่าว

ส่วนฝ่ายจำเลย นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น นายสุรชัย ชินชัย หัวหน้าทนายความ พร้อมด้วย ลูกชายทั้ง 2 คน พ่อแม่ลุงพล ญาติ และยูทูปเบอร์มาให้กำลังใจจำนวนมาก ได้เดินมาทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อฟังคำพิพากษาคดีน้องชมพู่

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ( ขณะที่นั่งโต๊ะแถลงได้ร้องให้ ) กล่าวว่า ความรู้สึกน่าจะได้ความยุติธรรม เราก็ได้ไปตามที่ศาลนัด ทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้เปิดในศาล สิ่งที่เราเห็นก็สร้างความมั่นใจ รออีกนิดหนึ่งก็ไม่เป็นไร การตายของน้องชมพู่ ในความรู้สึกของคนในครอบครัว ไม่สามารถคุยกันได้เลย คนในครอบครัวจะคุยกันก็ไม่ได้ เป็นการเซฟจิตใจของคนในครอบครัว ทุกคนต้องเก็บความอึกอัดนั้นไว้กับตัวเอง

นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เปิดเผยว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวที่ติดตามมาคงได้รับความยุติ ธรรม ในการที่ทีมงานทนายความ สำนักงานทนายธรรมรังสี ได้นำสืบทุกมิติ หลังจากที่มีการเลื่อนก็คงไม่มีผลอะไรที่กระทบในคดีนี้ ต้องวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เป็นวันที่จะอ่านคำพิพากษา เวลา 10.00 น. ต้องให้ถึงวันนั้น เพื่อที่จะพิศูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองต่อไป

นายไชย์พล วิภา เปิดเผยอีกว่า ทางฝั่งโจทก์ร่วมแม่น้ำชมพู่และพ่อน้อง ก็เข้ามารับฟังในวันนี้ ลุงกับป้าเองก็อยากจะทักทาย ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องห่างกันสักพัก ยังคงเห็นความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของเขา ก็ต้องรอให้บทพิสูจน์ที่ลุงกับป้าต่อสู้อยู่ปรากฏก่อน การตัดสินใจว่าด้วยเรื่องของอนาคตต่อไป

ด้าน นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น บอกว่า ได้เจอกันทุกนัดที่มาศาลกับพ่อแม่น้องชมพู่ เจอกันตลอด วันนี้ก็เจอทุกอย่างก็ต่อสู้กันมา เราก็หาความบริสุทธ์คืนความบริสุทธิ์ให้กับตนเอง เขาก็หาความยุติธรรมให้กับลูกสาว ในการต่อสู้ก็เราก็สู้ เขาก็สู้ให้ถึงที่สุด ส่วนครอบครัวสำหรับป้ามันแตกไปแล้ว

จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ จากหมู่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร หายตัวไปอย่างลึกลับจากบ้านของตัวเอง ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต ตามหาสามวันสามคืน จนในที่สุด วันที่ 14 พฤษภาคม ชาวบ้านรายหนึ่งไปพบศพน้องชมพู่ อยู่ในสภาพเปลือยกาย ที่ป่าภูเหล็กไฟ ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้านถึง 2 กิโลเมตร โดยในการสืบคดี โอกาสที่น้องชมพู่จะวิ่งไปบนเขาเองก็เป็นไปได้ แต่ตำรวจก็ยังไม่ตัดข้อสงสัยเรื่องฆาตกรรม คืออาจมีผู้ใหญ่พาไปที่ภูเขา แล้วปล่อยทิ้งไว้จนน้องชมพู่ไม่สามารถกลับมาได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตำรวจได้ออกหมายจับ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 ว่ามีความเกี่ยวพันกับคดีนี้จริง โดยแจ้ง 3 ข้อหาได้แก่ 1. พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร 2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย 3. กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น จำเลยที่ 2 ว่ามีความเกี่ยวพันกับคดีนี้จริง โดยแจ้งข้อกล่าวหา ตามฐานความผิดร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น

ล่าสุด ณ ห้องพิจารณาคดี 4 ศาลจังหวัดมุกดาหาร ผู้พิพากษาได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ1017 / 2564 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร โจทก์ นายไชย์พล หรือพล วิภา ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน จำเลย โดยมีโจทก์ โจทก์ร่วมทั้งสอง ทนายโจทก์ร่วมทั้งสอง จำเลยทั้งสอง และทนายจำเลยทั้งสอง มาศาล ดังนี้ ตามที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาคตรวจสำนวน และร่างคำพิพากษา ตามระเบียบฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการรายงานคดีในศาลชั้นต้น และศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกา ซึ่งศาลนี้ส่งสำนวน และร่างคำพิพากษาไปตรวจตามระเบียบดังกล่าว ว่าด้วยการรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ. 2562 ข้อ 7 ก. (3) ประเภทคดีมีที่อัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปีขึ้นไป แต่ร่างคำพิพากษาและสำนวนยังไม่กลับมาจากสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 จึงไม่อาจอ่านคำพิพากษาในวันนี้ได้ เห็นควรให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 ธันวา คม 2566 เวลา 10.00 น. ตามที่ทุกฝ่ายมีวันว่างตรงกัน.

อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร