เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน ขณะที่ ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยธา รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดร ธานี นำกำลังตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ก็ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายงัดบ้านเลขที่ 39/1 ซ.สามัคคี 3 ม.3 บ.นาทราย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรฯ เข้าไปขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ แถมคนร้ายยังได้อุจจาระไม่ยอมราดน้ำทิ้งไว้ในโถส้วมจนแห้ง นอกจากนี้คนร้ายยังทิ้งเหล็กชะแลง และมีดพร้า ที่ใช้ก่อเหตุไว้ด้วย คาดว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาก่อเหตุอีก เพราะทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านยังคงหลงเหลืออยู่ จึงไม่ได้นำติดตัวกลับไปด้วย หลังรับแจ้งจึงได้รีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด อยู่ในเนื้อที่ 2 งาน พบนางศุลีพร บุญทองอ่อน อายุ 44 ปี หลานสะใภ้เจ้าของบ้าน นำ จนท.ตรวจสอบบริเวณพบว่าที่ลูกกรงเหล็กดัดหน้าต่างห้องนอน ถูกคนร้ายใช้เหล็กชะแลงงัดออก แล้วนำลงมาพิงไว้ที่ผนังข้างบ้าน พร้อมกับทิ้งชะแลงไว้ด้วย จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินในบ้านกระจัดกระจาย ในห้องนอน 3 ห้อง ห้องพระ 1 ห้อง และห้องโถง 1 ห้อง จากการตรวจสอบทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไปในเบื้องต้นคือ ที่คอมเพลสเซอร์เครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง คนร้ายได้รื้อเอาคอยล์ร้อนและเย็นเอาท่อทองแดงไปจนเกลี้ยง นอกจากนี้คนร้ายยังตัดสายไฟจากมิเตอร์บนเสาไฟหน้าบ้าน และสายไฟฟ้าภายในบ้านไปจนเกือบหมด แถมยังอุจระทิ้งไว้ในโถส้วมไว้ให้เจ้าของบ้านดูต่างหน้าอีกต่างหาก

นอกจากนี้ที่ภายนอกตัวบ้าน คนร้ายยังได้ขโมยเอาเครื่องปั๊มลมขนาดกลาง 1 ตัว เครื่องพ่นยาฆ่าปลวก 1 ชุด ยังใช้เหล็กชะแลงงัดฝากระโปรงรถกระบะ แล้วถอดเอาแบตเตอรี่ไป 1 ลูก ตรวจสอบข้างกำแพงรั้วข้างบ้าน พบมีดพร้าของคนร้ายที่ใช้แผ่วถางป่าละเมาะข้างบ้าน ที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่า เพื่อหลบสายตาผู้คนเข้าไปก่อเหตุ โดยพบร่องรอยคนร้ายเปิดรั้วลวดหนามขึ้น บริเวณด้านหน้าพื้นที่ว่างเปล่าข้างบ้านที่เกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางเข้าไปก่อเหตุ และทยอยช่วยกันขนทรัพย์สินออกมา และคาดว่าคนร้ายน่าจะมีมากว่า 1 คน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปในเบื้องต้น ประมาณ 75,000 บาท
ต่อมาเจ้าของบ้านที่ย้ายไปอยู่กับสามี ซึ่งเป็นนายทหารเรือ ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประมาณ 2 ปี ได้วีดีโอคอลมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวว่า วันนี้จะเดินทางกลับมาบ้านที่ อุดรธานี เพื่อมาตรวจอบทรัพย์สินให้ละเอียดอีกครั้ง เสร็จแล้วจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกับตั้งค่าหัวคนร้ายเป็นรางวัลนำจับ 10,000 บาท หากใครแจ้งเบาะแสคนร้ายจนตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งวันนี้ตำรวจชุดสืบสวน แนะนำให้หลานสะใภ้เจ้าของบ้าน ในฐานชะผู้ดูแลบ้าน เดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานไว้ที่โรงพักไว้ก่อน
สอบสวนเบื้องต้น นางศุลีพรฯ ให้การว่า ตนมาคอยดูแลบ้านให้น้าของสามี ซึ่งย้ายไปอยู่กับแฟนที่เป็นนายทหารเรืออยู่ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นานๆจะกลับมาที่บ้านสักครั้ง ล่าสุดตนมาบ้านหลังนี้ช่วงสัปดาห์ก่อน เพื่อจะมาตัดหญ้ารอบบริเวณบ้าน แต่เปิดประตูรั้วบ้านไม่ได้ เพราะมันฝืด กระทั่งสายวันนี้ ตนจึงได้เข้ามาดู พบว่าบ้านถูกงัดรื้อค้นกระจักกระจายทั่วบ้าน และรื้อค้นสิ่งของในตู้โชว์ ขโมยทรัพยสินดังกล่าวไป และจะให้น้ามาตรวจสอบทรัพย์สินในบ้านอีกครั้ง เพราะตนก็ไม่รู้ว่าน้าเก็บทรัพย์สินมีค่าอะไรไว้ในบ้านบ้าง
“ล่าสุดช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา น้ากลับมานอนพักที่บ้านหลังนี้ และให้ตนมาทำความสะอาดที่บ้าน ตนได้เก็บเศษขยะในแต่ละห้องออกมาใส่ถุงดำเอาไว้ เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และยังไม่ได้นำไปทิ้ง ก็ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ รื้อค้นถุงขยะกระจัดกระจาย เพื่อค้นหาของมีค่า ฝากถึงคนร้ายอย่ามาทำแบบนี้เลยเพราะเจ้าของบ้านเขาเดือนร้อน ให้ไปหางานอื่นทำ จะดีกว่าที่ต้องมาเสี่ยงกับการติดคุกติดตาราง ที่น่าเจ็บใจสุดๆ คือคนร้ายอุจจาระทิ้งไว้ให้ตนดูต่างหน้า แล้วใครจะมาทำความสะอาดห้องน้ำให้หากไม่ใช่ตน”
นางศุลีพรฯ ให้การต่อว่า ช่วงที่ตนมาสัปดาห์ก่อนสิ่งของยังปกติ เพราะตนได้ตรวจสอบดูอย่างละเอียดแล้ว มาวันนี้ขณะตนเดินผ่านหน้าบ้านน้า เห็นพัดลมตั้งพื้นข้างตู้เย็น ล้มลงข้างรถกระบะ และสายไฟถูกพันไว้ที่ขาพัดลม เหมือนกับคนร้ายเตรียมไว้ เพื่อย้อนกลับมาลักเอาไป ซึ่งคาดว่าคนร้ายเป็นพวกขี้ยาในชุมชน หรือพวกหาเก็บของเก่าขาย เพราะเมื่อ 3-4 วันก่อน ช่วงกลางดึกได้ยินเสียงสุนัขเห่า อยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ ตนจึงเดินออกมาดู เห็นผู้ชาย 2 คน เดินมาเก็บเศษขยะ ตนคาดว่าจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุแน่นอน และฝากตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายไห้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุที่อื่นซ้ำอีก”.
Discussion about this post