
วันนี้ 17 พฤศจิกายน 2566 เริ่มแล้วกับงานเลี้ยงต้อนรับช้าง ที่จะเข้าร่วมการแสดงของช้างในงานช้างประจำปี 66 ของจังหวัดสุรินทร์ โดยนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยวนั่งช้างนำขบวนพาเหรดช้างกว่า 200 เชือก สุดยิ่งใหญ่อลังการจากหลังสถานีรถไฟสุรินทร์เข้าสู่บริเวณจัดงานที่ลานอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดี ศรีณรงค์จางวาง และ เป็นประธานกล่าวต้อนรับนักท่องเที่ยวเปิดงานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง ประจำปี 2566 สุดยิ่งใหญ่ เป็นครั้งที่ 23 อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเพื่อเป็นการต้อนรับช้างที่เดินทางกลับบ้านและเข้าเมืองสุรินทร์เพื่อร่วมงานแสดงช้างประจำปี 2566 โดยมี ประชนชาวสุรินทร์ นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก
จังหวัดสุรินทร์จัดให้มีการจัดงานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2535 ณ บริเวณหลังสถานีรถไฟ โดยกำหนดจัดขึ้นก่อนวันแสดงช้างจริง ซึ่งเป็นการต้อนรับช้างที่เดินทางกลับบ้านและเข้าเมืองสุรินทร์เพื่อร่วมงานแสดงช้างประจำปี โดยทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานขึ้น โดยปีนี้งานแสดงช้างประจำปี 2566 จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 18 และ 19 พฤศจิกายน 2566 รวมสอง
สำหรับกิจกรรมวันนี้ประกอบด้วย การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เพื่อรอขบวนช้างเข้ามาในบริเวณพิธีและเป็นการตรึง ชมการเซ่นไหว้ศาลปะกำ ณ บริเวณประรำพิธีอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีฯ กิจกรรมเลี้ยงอาหารช้างใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดอาหารช้างกว่า 22 ตัน บนโต๊ะความยาวกว่า 400 เมตร เพื่อเลี้ยงช้างที่มาร่วมงาน 200 เชือก สุดยิ่งใหญ่อลังการ รายการอาหารช้าง ประกอบด้วย เจ้าพันตา (สับปะรด)/เจ้าเนื้อนวล (กล้วยน้ำว้า)/ข้อล่ำสัน(อ้อย)/เขียวท้องโต(แตงโม)/เขียวกรอบเย็น (แตงกวา) โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากเข้าร่วมเลี้ยงอาหารช้างอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะได้ชมความยิ่งใหญ่ของการแสดงช้าง ในงานช้างประจำปี 2566 นี้ ในวันที่ 18 และ 19 พฤศจิกายน 2566 รวมสองวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ที่สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ อลังการกับฉากการแสดงที่ยิ่งใหญ่ และปีนี้จังหวัดสุรินทร์ได้กำหนดจัดแสดงช้างประกอบแสงเสียงในช่วงค่ำอีกด้วย.
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์
Discussion about this post