
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 เวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ติดตามแรงงานนครพนมกลับจากอิสรา เอล จากเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกยิงไล่ฆ่าประ ชาชนชาวอิสราเอลเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงแรงงานไทยที่เสียชีวิต 34 ราย บาดเจ็บรวมถึงโดนจับเป็นตัวประกันหลายรายส่วนทางด้านนายอนุสรณ์ กาบัง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 2 บ้าน โพธิ์ตาก ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกา ยนปี 65 ทำงานได้ 1 ปี ไปทำงานอยู่ทางภาคกลางของอิสราเอลถือว่าห่างไกลจากสมรภูมิที่มีการสู้รบกัน ทำงานกับนาย จ้างซึ่งทำประกอบอาชีพเกี่ยวกับเกษตรกรรม ก็คือสวนผักออแกนิคได้เงินประมาณชั่วโมงละ 30 เช็คเกียร์ตกประมาณ 280บาทต่อชั่วโมง ตกประมานเดือนละ 5-6 หมื่นบาท
หลังจากเกิดเหตุรุนแรงที่กลุ่มฮามาสบุกยิงประ ชาชนชาวอิสราเอลรวมถึงไทยด้วยและทางการไทยขอให้พี่น้องประ ชาชนแรงงานไทยเดินทางกลับประเทศไทยก่อนตนจึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมซึ่งเป็นนาย จ้างซึ่งมีคนงานไทยนั้นมีตนเพียงคนเดียวที่เหลือนั้นก็เป็นชาวอิสราเอล 1 คนรวมเป็น 2 คนกับตน เองเพราะการทำงานที่อิสราเอลนั้นไม่ใช่บริษัทเป็นงานเกษตรของครอบครัวชาวอิสราเอล หาก ว่าอิสราเอลและกลุ่มฮามาสหรือฉนวนกาซ่า ยุติสู้รบกันบ้านเมืองสงบ ตนก็อยากกลับไปทำงานที่อิสราเอล แต่จะไม่ขอไปทำงานกับนายจ้างเดิมขอไปทำงานที่อื่นแทน
ส่วนเงินเยียวยานั้นได้รับมา15,000 บาท ซึ่งเป็นเงินกองทุนส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ นั้นไปทำเรื่องยื่นแล้วที่สำนักงานแรงงานจังหวัด ด้านความคืบหน้าของนายณัฐพงษ์ ปินตา อายุ 35 ปี ที่ไปทำ งานประเทศอิสราเอล ทำงานได้ 1 ปีกับ 4 เดือนตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ยังติดต่อกับนายณัฐพงษ์ ไม่ได้ ทำให้ครอบครัวเป็นห่วงกังวลไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่าง ไร ครอบครัวลำบากมาก เพราะนายณัฐพงษ์ เป็นเสาหลักของครอบ ครัวทั้งค่าใช้จ่ายหนี้สิน ค่างวดรถ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตั้งแต่เกิดเหตุเป็นต้นมา เงินเยียวยาจากทางรัฐบาลก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่านายณัฐพงษ์ ยังมีชีวิตอยู่ หรือ ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ทำให้ให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือยังไม่ได้.
Discussion about this post