
วันที่ 5 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุตรวจพบยางพาราแผ่นจำนวน 55,000 กิโลกรัม อยู่ที่โรงรับซื้อแต่ไม่เอกสารการรับจากยางแผ่นทั้งหมดจำนวน 105,000 กิโลกรัม และเจ้าหน้าที่สกัดรถบรรยางแผ่นอักจำนวน 9,000 กิโลกรัมจากโรงรับซื้อเดียวกันเพื่อไปขายโรงงานใหญ่ ซึ่งก็ไม่หนังสือหลักฐานเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ทหารประ จำด่านจุดตรวจศิลาสลัก กองร้อยทหารราบที่ 2521 ร่วมกับ ศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตรระนอง, สภ.ปากจั่น และตำรวจ ภ.จว.ระนอง ตรวจรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน ระนอง คนขับ ชื่อ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ที่อยู่ ม.3 ต. จ.ป.ร. อ.กระบุรี จ.ระนอง จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบยางพาราชนิดแผ่นตั้งเรียงซ้อนกันเป็นชั้นอยู่ท้ายรถ น้ำหนัก 9,000 กก. สอบถามนายเอ (คนขับ) ยอมรับว่าเป็นยาง พาราแผ่น จากร้านรับซื้อยางพารา ในพื้นที่ อ.กระบุรี โดยกำลังขนย้ายยางพาราจำนวนดังกล่าว เพื่อนำไปขายที่โรงงานรับซื้อที่ อ.บางสะ พานน้อย จ. ประจวบคีรีขันธ์
เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจเอกสารการขนย้าย เอก สารการซื้อขายที่มาของยางพารา จากการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆจากคนขับรถ พบว่าเอกสารยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากไม่ลงรายละเอียดผู้ขายให้กับร้านรับซื้อยางพารา จึงได้สอบถามถึงร้านรับซื้อต้นทางที่รถคันดังกล่าวรับยางพารามา เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีข้อสงสัยจำนวนหลายเรื่อง ทั้งเรื่องยาง เรื่องเอกสาร ลักษณะของยางแผ่นที่บรรทุกมาและอีกหลายๆเรื่อง จนท.ทุกหน่วยมีความเห็นร่วมกันให้เข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงร่วมเข้าตรวจสอบทำการพิสูจน์ต้นทางของยางพารา ได้แก่ ร้านรับซื้อยางพารา ที่อยู่ ม.7 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมี นางสาวบี (นามสมมุติ) แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน จากการตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว พบยางพาราแผ่นดิบน้ำหนักทั้งหมด จำนวน 105,000 กก. (105 ตัน) ตรวจสอบเอกสารการรับซื้อยางพาราแผ่น พบยางพาราที่มีเอกสารการซื้อขายจากชาวสวนยาง จำนวน 50,000 กก. และไม่พบเอก สารการซื้อขายยางพาราจากชาวสวน จำนวน 55,000 กก. เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดยางพา ราแผ่นดิบ จำนวน 55,000 กก. ไว้เพื่อรอให้ นางสาวบี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน นำเอกสารการซื้อขายยางพารามาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ (ภายใน 7 วัน หากครบกำหนด 7 วัน) ไม่มีเอกสารการซื้อขายยางพาราแผ่นดิบ จำนวนดังกล่าวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ไพโรจน์ รัตนรัตน์ จังหวัดระนอง
Discussion about this post