
เมื่อเวลา10.00น.วันนี้ 9 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่มีเหตุการณ์ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในเขตป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) กว่า 150 ตัว (บวก) พากันยกโขลงข้ามถิ่น ออกหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เข้ามาในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านซึ่งเป็นไร่อ้อยไกลถึงบริเวณหมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 11ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบหมายให้ รอ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมด้วยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับนายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายธานนท์ โสภิตชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 นายสมเกียรติ สุสัณพูลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกันลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และเข้าร่วมประชุมที่องค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรับทราบข้อมูลจากหน่วยงานและชุมชนในพื้นที่ ประกอบด้วย นางสาวภัทริน ภู่มณี นายกองค์การบริการส่วนตำบลวังท่าช้าง นายธนุวัฒน์ เมืองจันทร์ ปลัดอำเภอกบินทร์บุรี นายวัชรธรรม พรมสามสี กำนันตำบลท่าช้าง และนายแอ็ด ตะเภาพงษ์ ตัวแทนราษฎรผู้ได้รับผลกระทบ
ที่ประชุมได้ร่วมกันวางแผนเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น รอ.รชฎฯได้ให้กำลังใจชุมชนและเจ้าหน้าที่ ในการแก้ไขปัญหาและผลักดันช้างป่าให้กลับคืนสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ผลการร่วมประชุมหารือ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาและกำหนดมาตรการในการผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยเป็นการบูรณาการสนธิกำลังร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดปราจีนบุรี และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น โดยใช้ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง เป็นสถานที่ตั้งศูนย์บัญชาการ มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 เป็นผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) จำนวน 100 คน สำนักบริหารที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จำนวน 100 คน และจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอกบินทร์บุรี องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว และองค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้างจำนวน 50 คน รวมทั้งสิ้น 250 คน ในการจัดตั้งชุดปฏิบัติการเพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ให้กลับคืนสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ตั้งแต่วันที่ 6 ธค.66 เป็นต้นไป โดยให้มีการรายงานผลเป็นประจำทุกวัน ออกปฏิบัติงานในทันทีอย่างต่อเนื่องจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ ตามรายละเอียดที่นำเสนอโดยต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดตลอดทั้งคืนจรดค่อนรุ่งเช้านี้ ( 9ธ.ค.) นายธานนท์ โสภิชชา ผู้อำนวยการ สำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ 1 (ปราจีนบุรี) ในฐานะผู้บังคับบัญชา ศูนย์แก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์จังหวัดปราจีนบุรี นายมนต์มณัฏฐ์ เสมสวัสดิ์ ผู้อำนวยการส่วนประสาน โครงการพระราชดำริ และ กิจการพิเศษ หัวหน้าชุดสนับสนุน และติดตามประเมินผล นายกิตติชัย รุ่งไพบูลย์วงศ์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า หัวหน้าชุดปฏิบัติการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ 1 (ปราจีนบุรี)
ร่วมกันปล่อยแถวชุดปฏิบัติการผลักดัน ช้างป่า จำนวน 16 ชุด 160 คน เข้าพื้นที่ทำงาน ในการผลักดันโขลงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ในป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้วจ.จันทบุรี จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) รวมจำนวนมากกว่า 150 ตัว(บวก) ที่ยกโขลงข้ามฝั่งเข้ามาหากินไกลถึงในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้กลับคืนถิ่นในเขตป่าลุ่มต่ำฯ ถิ่นที่อยู่เดิม
เจ้าหน้าที่จากสำนัก บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เจ้าหน้าที่ จากสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 2( ศรีราชา)อาสาสมัครร่วมผลักดันช้าง และ ภาคส่วนต่างๆประมาณ 160 คน ได้เข้าพื้นที่ ทำการผลักดันช้างป่าเป็นการต่อเนื่อง
จากการที่โขลงช้างป่า ประมาณ 150 + จาก เขตอนุรักษา สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้ออกมาจากป่า เข้ามาหากินในพื้นที่ การเกษตร ของชาว บ้าน ห่างจากแนว ไม่ต่ำกว่า 25 กิโลเมตร เข้ามาหากินถึง ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการ ผลักดันให้กลับเข้าป่าตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2566 ณ เวลานี้ โขลงช้างดังกล่าวได้เคลื่อนย้าย เข้าแนวเขตป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณ บ้านยาว ต.ท่ากระดาน อ. สนามชัย จ.ฉะเชิงเทรา เรียบร้อยแล้ว
เวลา 08.00 น.ได้รับรายงาน จากทุกหน่วยสามารถผลักดันช้างเข้าป่าได้ครบทุกตัวแล้วจากนั้น แต่ละหน่วยได้ กำลังกลับมารวมพล ที่วัดคลองยายสร้อย ทำการ ปิดยุทธการผลักดันโขลงช้างป่าในการนำกลับคืนผินป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายสำเร็จเรียบร้อย พร้อมแยกย้ายกลับที่ตั้งต้นสังกัด โดยจะมอบหมายให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนรับช่วงต่อ ในการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้ช้างออกมาอีก สามารถทำการผลักดันกลับสู่ป่าได้สำเร็จครบทุกตัว
เทคนิค ในการ ทำงานโดยใช้การก่อกองไฟป้องกันช้างย้อนกลับหรือออกจากเส้นแนว บังคับห้ามใช้ประทัดหรือระเบิดปิงปองโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้ ช้างโกรธและหงุดหงิด ทำอันตรายเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความอดทนและต้องปฏิบัติงานตั้งแต่ช่วงเย็นต่อเนื่องจรดยาวตลอดค่อนรุ่งเป็นช่วงที่ช้างออกมาหากิน
นายธานนท์ โสภิชชา ผู้อำนวยการ สำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ 1 (ปราจีนบุรี)ในฐานะผู้บังคับบัญชา ศูนย์แก้ไขปัญหาช้างป่า ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวสรุปว่า“ในนามของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขออภัยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโขลงช้างป่าออกมาหากินในพื้นที่ในครั้งนี้ และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนรวมถึงชุดอาสาช่วยผลักดันช้างต่างๆ ผู้นำชุมชน จิตอาสา ที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จนสามารถผลักดันช้างป่าเข้าป่าอนุรักษ์ได้ครบทุกตัว และหากพบว่ายังมีช้างป่าหลงเหลือรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไป ขอให้แจ้งสายด่วน 1362 “ นาย ธานนท์ กล่าวในที่สุด
Discussion about this post