คปภ. จับมือนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร เดินหน้ารณรงค์ปลุกพลังนักบิดในเมืองสมุทรสาครทำประกันภัย พ.ร.บ.

วันนี้ (12 ธันวาคม 2566) เวลา 13.30 น. นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “คปภ. ปลุกพลังนักบิด คุ้มครองอย่างห่วงใย ด้วยประกันภัย พ.ร.บ.” โดยมีวัตถุประ สงค์ เพื่อปลุกพลังและรณรงค์เชิงรุกในพื้นที่นำร่องนิคมอุตสาห กรรมแก่เจ้าของรถ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ให้มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม และหันมาใส่ใจทำประกันภัย พ.ร.บ. ภายใต้โครง การรณรงค์เชิงรุกในพื้นที่นำร่องเพื่อส่งเสริมการทำประกันภัย พ.ร.บ. อย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมงานและกล่าวต้อนรับ พร้อมทั้ง
นางปนัดดา เย็นตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ผู้แทนส่วนราชการจังหวัดสมุทรสาคร ภาคีเครือข่าย อาสาสมัครประกันภัย เข้าร่วมงาน ณ ลานกิจกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

นางสาวสิริพักตร์ สุวรรณทัต ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ประสบภัย
จากรถ กล่าวว่า จากข้อมูลการจดทะเบียนรถสะสมภาพรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 พบว่ามีรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนจำนวนกว่า 42.86 ล้านคัน ซึ่งเป็นรถที่จัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. เพียง 34.21 ล้านคัน หรือคิดเป็นร้อยละ 79.83 ของรถที่จดทะเบียนทั้งหมด นอกจากนี้จากข้อมูลการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย (1 มกราคม 2566 – 31 ตุลาคม 2566) ได้มีการเยียวยาผู้ประสบภัยจากรถมากถึง 8,033 ราย คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 159 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจำนวนรถที่ไม่จัดทำประกันภัย พ.ร.บ. จำนวนมาก โดยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ประสบภัยนั้นเกิดจากรถจักรยานยนต์ กล่าวได้ว่าการจัดกิจกรรม “คปภ. ปลุกพลังนักบิด คุ้มครองอย่างห่วงใย ด้วยประกันภัย พ.ร.บ. ” ในครั้งนี้ จะสร้างความตระหนักให้กับประชาชนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของประกันภัย พ.ร.บ มากยิ่งขึ้น โดยได้เน้นกลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้รถจักรยาน ยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการทำประกันภัย พ.ร.บ. อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หรือ ประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคันทุกประเภทต้องจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคนเดินเท้า โดยที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้มีการขับเคลื่อนด้านประกันภัย พ.ร.บ. ในหลากหลายมิติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองตามประกันภัย พ.ร.บ. จากเดิม 300,000 บาท ให้ได้รับความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท การขยายช่องทางการจำหน่ายประกันภัย พ.ร.บ. ให้ประชาชนสามารถซื้อหรือต่อประกันภัย พ.ร.บ. ที่สะดวกยิ่งขึ้น อาทิ ช่องทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชันที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7-11 นอกเหนือจากการซื้อผ่านตัวแทน หรือนายหน้าประกันภัย นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิต ภัณฑ์ประกันภัย พ.ร.บ. สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีระยะเวลาความคุ้มครองระยะยาว 3 – 5 ปี เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ประชาชน รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมการขนส่งทางบก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศในการตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ ก่อนชำระภาษีรถยนต์ประจำปี

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. เล็งเห็นว่าจังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองแห่งเศรษฐ กิจที่มีศักยภาพทั้งทางด้านอุตสาหกรรม ประมง และเกษตรกรรม โดยเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง และมีจำนวนของผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก จังหวัดสมุทร สาครจึงมีความพร้อมที่จะเป็นพื้นที่นำร่องในการปลุกพลังและส่งเสริมประชาสัมพันธ์เรื่องประกันภัย พ.ร.บ. ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญ รับรู้ถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับจากการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ.
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้มีการจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ควบคู่ไปกับการให้ความบันเทิงแก่ผู้เข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม Roadshow การสร้างการรับรู้ด้านประกันภัย พ.ร.บ. ในย่านชุมชนใกล้นิคมอุตสาหกรรม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และเชิญชวนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานผ่านกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงกิจกรรมรณรงค์ ที่จัดให้มีการเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากประกันภัย พ.ร.บ. การออกบูธ
ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมินิคอนเสิร์ตจากธัญญ่า อาร์สยาม ด้วย โดยที่ผ่านมา สำนัก งาน คปภ. ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ “คปภ. ปลุกพลังนักบิด คุ้มครองอย่างห่วงใย ด้วยประกันภัย พ.ร.บ.” มาแล้ว 2 ครั้ง ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จังหวัดฉะเชิงเทราด้วย
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. มีความเชื่อมั่นว่า การผนึกกำลังร่วมกับจังหวัดสมุทรสาครและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในวันนี้ เปรียบเสมือนเป็นการร่วมมือร่วมใจและปลุกพลังเพื่อสื่อสารถึงประชาชน โดยเฉพาะเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองทุกคน ได้ตระหนักถึงความสำคัญและรับรู้ถึงความสำคัญและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของการทำประกันภัย พ.ร.บ. โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ และประกันภัย พ.ร.บ. ได้ที่ Facebook กองทุนทดแทนผู้ประกันภัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : สายด่วน คปภ. 1186.

ณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส /สมุทรสาคร