รมช.คมนาคม ตรวจแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ช่วงเทศกาลปีใหม่ ฝากดูแลไหล่ทาง-จุดบริการประชาชน  เผย “เศรษฐา” หนุนพัฒนาขนส่งสาธารณะเชียงใหม่

วันที่ 23 ธันวาคม 2566 ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการตามแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2567 ของสำนัก
งานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ มีนายทศพลเผื่อนอุดม  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมขนส่งจังหวัดภาคเหนือตอนบน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานแผนปฏิบัติการ ในช่วงเทศกาลดังกล่าว ก่อนนายสุรพงษ์ ได้เยี่ยมชมการอบรมความรู้ด้านการขับขี่และจราจรแก่เยาวชน พร้อมมอบใบอนุญาตขับขี่รถ
จักรยานยนต์แก่ผู้ผ่านการอบรมดังกล่าวกว่า 50 คน โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ ถือเป็นช่วงสำคัญ มีความจำเป็นอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางท่องเที่ยว ทั้งทางบกอากาศ เรือ และทางรางรถไฟ เพราะท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้หลักประเทศ ลงทุนน้อย คินทุนเร็วได้กำไรมาก ซึ่งนโยบาย
กระทรวงคมนาคม ต้องการเป็นจิ๊กซอว์ที่เคลื่อนย้ายคน และสิ่งของ ภายใต้บูรณาการทุกหน่วยงาน การมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน เพื่อตอบโจทย์การขนส่งที่สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย โดยเฉพาะรถไฟความ
เร็วสูงกรุงเทพ-เชียงใหม่ ที่ใช่เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง 10 นาที ใกล้คียงการเดินทางด้วยเครื่องบิน ซึ่งมีโครงการสร้าง และแล้วเสร็จภายในปี 2580

ดังนั้นการพัฒนาระบบขนส่ง ต้องคิดนอกกรอบ ไม่ได้อิงงบประมาณอย่างเดียว ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายพัฒนาขนส่งสาธารณะ เพื่อลดการจราจรแออัด ลดใช้พลังงาน มลพิษ และใช้เวลาเดินทางน้อยลง ดังนั้นกระทรวงคมนาคม มีแผนประชุมพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะแบบใหม่ ที่เชียงใหม่ ในต้นปีหน้า เพื่อลำเลียงผู้โดยสาร และเป็นทาง
เลือกประชาชน ลดจราจรแออัดตามแผนของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) โดยเริ่มดำเนินการภายในปี 2567 ด้วย

“ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางหลวงชนบท และแขวงการทาง ดูแลเรื่องไหล่ทางที่เข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว และจุดบริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันอุบัติเหตุถนนสายรอง หรือเส้นทางบนที่สูง อาทิ ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง
ห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง ดอยหลวง อ.เชียงดาวและเส้นทางมุ่งหน้าไปยังอ่างขาง อ.ฝางเนื่องจากมีการเดินทางหนาแน่น และใช้ยานพาหนะจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัดด้วย” นายสุรพงษ์กล่าว

นายจิรุตม์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีมาตรการอำนวยความสะดวกทและความปลอดภัย สำนักงานขนส่งทั่วประเทศกว่า200 แห่ง ตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะอบรมพนักงานขับรถ ต้องปลอดแอลกอฮอล์เป็น 0 % เท่านั้น ตรวจการใช้ยารักษา
โรคที่เจ็บป่วย หรือโรคประจำตัว และขับรถ 4 ชั่วโมง พักครึ่งชั่วโมง ก่อนขับต่ออีก4 ชั่วโมง รวม 8 ชั่วโมง ตามที่กฏหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการดังกล่าว ช่วงทศกาลปีใหม่ บขส.ได้สำรองรถเดินทางเพิ่ม 700 คัน ส่วนเชียงใหม่ สำรองรถเดินทางเพิ่ม 60-70
คัน เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก

นายทศพล กล่าวว่า เชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีพื้นที่ 22,000 ตารางกิโลเมตร รวมกว่า 14 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ภูเขาและพื้นที่สูงกว่า 80 %  มีพื้นที่ป่ากว่า 70% มีเส้นทางรองกว่า 3,000 กิโลเมตร จากสถิติพบว่าช่วงปีใหม่ อุบัติเหตุ
ส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์ 80 %ทำให้อัตราการเสียชีวิต 26 คนต่อประชากร 100,000 คน สูงกว่ามาตรฐานสากลที่กำหนดเพียง 12 คน ต่อประชากร100,000 คน เท่านั้น ซึ่งอุบัติเหตุส่วน
ใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ หรือนักท่องเที่ยว
ทั่วไป ที่ไม่ชินสภาพภูมิประเทศ และเส้น
ทางสูงชัน คดเคี้ยว ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ
สูงขึ้น

“ปีนี้จังหวัด ได้บูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อ
ป้องกันและลดอุบัติเหตุมากที่สุด ตั้งเป้ามี
ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตน้อยกว่าปีแล้วตาม
นโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการดูแลความ
ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยทาง
จังหวัดได้ให้ฝ่ายปกครอง 25 อำเภอ และ
องค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) 211 แห่ง
เฝ้าระวังและตั้งด่านตรวจช่วง 7 วันอันตราย เพื่อลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพยฺสินมากที่สุด” นายทศพล กล่าว
/////////