จากกรณี เพจครูตะวัน ประทีปแห่งที่ราบสูง ได้โพสต์ #เพื่อชีวิตของแม่และเด็ก #กำพร้าไร้บ้านไร้ที่พึ่ง #กัส (นามสมมุติ) และลูกต้องรอด น.ส. ก้ส วัย 24 ปี หญิงกำพร้า ไร้บ้าน ในเขตเมืองอุดรธานี ที่ถูกสามี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ทำร้ายอย่างต่อเนื่อง ในขณะตั้งครรภ์ เข้ามาขอความช่วยเหลือ พักพิงพึ่งพาที่ศูนย์เรียนรู้ฯ บ้านพ่อครูตะวันเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยไร้การติดต่อจากสามี ซึ่งไม่ได้จดทะเบียน พ่อครูตะวัน กลุ่มครูข้างถนน ได้มอบหมายให้ ครูหิน ชัชนันท์ หมายมั่น ทีมงานอาสาสมัคร กลุ่มครูข้างถนน นำ น.ส.ก้ส (นามสมมุติ)ไปพบแพทย์ ที่ รพ.ศูนย์อุดรตามใบส่งตัวของ รพ.เทศบาลนครอุดร วันนี้ แพทย์แจ้งว่า น.ส.กัส มีเบาหวานขึ้น ถึง 300 จึงขอให้นอนดูอาการ และรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุดรธานี เนื่องจากกำหนดคลอด ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ เกรงว่าจะเป็นอันตราย ท่านใด มีของใช้ จำเป็นสำหรับแม่และเด็กแรกเกิด นำมาบริจาคได้นะครับ เพื่อชีวิตของเด็กแรกเกิดและแม่ ซึ่งกำพร้าไร้บ้านไร้ที่พึ่ง (ครูตะวัน) เพชรสยาม เจนหัตถ์นามเสนา

ต่อมาเวลา 13.00 น.วันที่ 6 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ น.ส.กัส (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาวตำบลหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะนี้กำลังท้อง 8 เดือน และได้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนมีสามีคนแรกและมีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นลูกชายขณะนี้อายุ 8 ขวบ จากนั้นก็ได้เลิกรากันไป
ต่อมาตนก็ได้คบหาและอยู่กินกับนายมอส อายุ 32 ปี เป็นราษฎรชาวตำบลสุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี แล้วก็ไปอยู่บ้านสามีในขณะตั้งท้องอยู่ประมาณ 4-5 เดือน ช่วงเย็นได้มีเพื่อนบ้านได้มาเรียกสามี แต่สามีนอนหลับอยู่ในบ้าน ตนเองนั่งอยู่หน้าบ้าน จึงได้เดินออกไปหาเพื่อนบ้าน แต่เพื่อนบ้านลากไปข่มขืนป่าหลังบ้าน พอสามีรู้จึงพาไปแจ้งแจ้งความกับตำรวจ สภ.เพ็ญ
น.ส.กัส กล่าวต่อไปว่า จากนั้นสามีไปทำงานในไร่มะละกอ ที่ จ.กำแพงเพชร โดยสามีพาตนไปด้วย ขณะท้อง อยู่ 6 เดือน คนงานด้วยกัน ก็มาเรียกสามี ซึ่งนอนในบ้านพักคนงาน ตนก็เลยออกมา แต่ก็ถูกคนงานลากไปข่มขืน พอสามีรู้ก็พาไปแจ้งความกับตำรวจที่ จ.กำแพงเพชรให้ดำเนินคดีที่กับคนที่ข่มขืนตน แล้วได้เดินทางกลับมาบ้านสามี ที่ อ.เพ็ญ แต่สามีคิดไปเอง ว่าตนไปเล่นชู้ เด็กในท้องไม่ใช่ลูกของเขา จะทำร้ายตนเองประจำเกือบทุกวัน หากวันไหนสามี อยากร่วมเพศ ก็จะพาไปข้างนอก ทำร้ายร่างกายในป่าก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กัน ทำให้ตนทรมานมาก ทั้งร่างกายและจิตใจบอบช้ำ จึงได้หนีมาขอความช่วยเหลือกับครูตะวัน ทำให้หลุดจากขุมนรกมาได้
นายเพชรสยาม เจนหัตถ์นามเสนา ครูตะวัน เล่าว่า ก่อหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคม 66 น้องกัสหลอกสามี ให้พามาหายาย แต่ที่จริงแล้วต้องการมาขอความช่วยเหลือกับตน ซึ่งตอนนั้นใช้อุบายมาขอข้าวสารอาหารแห้ง ตนเห็นรอยฟกช้ำตามร่าง กายเห็นผิดสังเกต น้องกัส แสดงอาการว่าไม่ยอมกลับไปบ้านพร้อมกับสามี ตนก็เลยพาน้องกัส ไปคุยในบ้าน ไม่ให้สามีเข้าไปด้วย เท่าที่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า สามีกระทำกับน้องกัสขณะท้องอยู่ก็ทำร้ายและบังคับมีเพศสัมพันธ์ด้วยอยู่ตลอด ตนก็เลยให้น้องกัส พักอยู่บ้าน และบอกให้สามีของน้องกัส กลับไปบ้านก่อน วันต่อมานายมอส สามีน้องกัสมาหา ร้องไห้กราบเท้าเมีย อยู่ 3 วัน พร้อมกับสัญญาณว่า จะไม่ทำแบบนั้นอีก ทำให้น้องกัส ใจอ่อนจึงยอมกลับไปอยู่บ้านกับสามี
นายเพชรสยาม กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นผ่านไป 3 วัน สามีก็ยังทำพฤติกรรรมเหมือนเดิม ทำให้น้องกัสทนไม่ได้แล้ว จึงได้ขอเงินจากชาวบ้าน 40 บาท นั่งรถโดยสารกลับเข้ามาตัวในเมืองอุดรธานี พอถึงคิวรถรังษิณาไม่รู้จะไปไหน กลัวสามีจะตามพบ ในตอนนั้นคิดจะฆ่าตัวตายจะกระโดดลงไปในอุโมงค์ เพื่อจะให้รถชนตาย แต่เกิดเจ็บท้องขึ้นมา ลูกในท้องดิ้น ทำให้ตั้งสติขึ้นมาได้ว่ายังมีลูกอยู่ในท้อง จึงได้ถามทางชาวบ้าน แล้วเดินมาหาตนที่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พอมาถึงเห็นสภาพทั้งร่างกายและจิตใจบอบช้ำมาก จึงได้ช่วยเหลือรับเอาไว้ ตอนนี้น้องกัสทั้งร่าง กายและจิตใจ เริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนสามีของน้องกัส ไม่กล้ามาหา รู้เพียงว่าหนีไปทำงานต่างจังหวัด เพราะกลัวความผิดที่ทำกับภรรยา
ส่วน น.ส.กบ นามสมมุติ อายุ23 ปี น้องสาวของ น้องกัส เล่าว่า ในตอนแรกทราบเพียงว่า พี่สาวได้สามีใหม่แล้วตั้งท้องด้วย มารู้เรื่องตอนพี่สาวมาขอความช่วยเหลือจากครูตะวัน ว่าถูกสามีทำ ร้ายร่างกายและบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยขณะท้องอยู่ รู้สึกเสียใจมากที่พี่สาวมาเจอแบบนี้กับสามีใหม่ พอพี่สาวได้รับความช่วยเหลือให้หลุดออกมาจากขุมนรกรู้สึกดีใจมาก.
Discussion about this post