‘บิ๊กตุ้บ’ นำทีมสืบสวนตามรวบ ‘ป๊อบ มหาสวัสดิ์’ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1 แสนเม็ด,ยาไอซ์, ยาอี,ยาเคตามีน อาวุธปืน

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.30 น.ที่สถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล จว.นครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกุล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม นายทัศน์พงษ์ วัฒนายากร ผอ.ปปส.ภ.7 พ.ต.ท.โอภาส วงษ์หงส์ ผอ.ส่วนอานวยการบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.7 นายประสาร เกิดทอง หน.บก.1 ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.7 พ.ต.อ. พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นคร ปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นคร ปฐม พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ. พุทธมณฑล พ.ต.ท.วิเชธ เชยกลิ่น รอง ผกก. สส.สภ.พุทธมณฑล พ.ต.ท.ไพโรจน์ ใจเมือง สว.สส.สภ.พุทธมณฑล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 2 คน

คือ นายกมลวัฒน์ หรือ ป๊อบ อายุ 27 ปี และนายสัมฤทธิ์ หรือริท อายุ 47 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 139,462 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 305.5 กรัม ยาอีจำนวน 98 เม็ด ยาเคจำนวน 21 กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค(Honda civic) รถยนต์เก๋ง นิสสัน(Nissan) สีแดง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แบบซองประทับตราsupreme จำนวน 146 ซอง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แบบซองประทับตราcollagen จำนวน 29 ซอง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ EKOL JACKAL DUCAL COM PACT ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก ซองกระอสุนปืนจำนวน 1 ซองและอื่นๆอีกหลายรายการ

โดยแจ้งข้อกล่าวหา นายกมลวัฒน์ (ผู้ต้องหารายที่ 1) โดยกล่าวหาว่า “ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์,ยาอี) และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจาหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ”และ นายสัมฤทธิ์ (ผู้ต้องหารายที่ 2) โดยกล่าวหาว่า “ จำหน่ายวัตถุออกกฤทธิ์ต่อจิตและประ สาท ประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำ หน่าย โดยกระทาเพื่อการค้า ”

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตามนโยบายแก้ไขปัญหาการปราบปรามยาเสพติด สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 7 โดยให้มุ่งเน้นใช้มาตร การทางกฎหมาย ในทุกมิติ เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ มุ่งเน้นให้เดินหน้าเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลการทุกเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับ รวมทั้งสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์ สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทุกรายมาตรวจสอบ โดยเมื่อวันที่ 14 -15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 07.30 น.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายกมลวัฒน์ หรือป๊อบ อายุ 27 ปี มีพฤติการณ์ ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ พุทธมณฑล และบริเวณใกล้เคียง จึงได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ พร้อมรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาลจังหวัดนครปฐมขอหมายค้น ศาลจังหวัดนคร ปฐม ที่ ค.101 / 2567 ลงวันที่ 14 ก.พ.2567 ให้ดำเนินการตรวจสอบบ้านดัก ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จว.นครปฐม

ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบ พบนาย กมลวัฒน์ หรือ ป๊อบ พักอาศัยอยู่ที่หลังดังกล่าวจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้องแสดงหมายขอทำการตรวจค้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบของกลางยาบ้าจำนวน 4,122 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 305.5 กรัม อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 ซอง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แบบซอง ประทับตาSUPREME สีดำ จำนวน 60 ซองจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อ ว่า จากการสอบสวน นาย กมลวัฒน์ หรือ ป๊อบ ได้ให้การรับสารภาพว่าตนยังมียาเสพติดซุก ซ่อนอีกจำนวนมากที่เซฟเฮ้าส์ ย่านนนทบุรี จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านอีกหลัง ใน ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จว.นนทบุรี และควบคุมตัวนายสัมฤทธิ์ หรือริท อายุ 47 ปี ตรวจยึดยาบ้าได้อีกจำนวน 134,000 เม็ด ยาเคจำนวน 1 กิโลกรัม ยาอีจำนวน 98 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แบบซอง ประทับตา collagen สีชมพู จำนวน 29 ซอง, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แบบซอง ประทับตาSUPREME สีดำ จำนวน 86 ซอง จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด
จากการสอบสวนขยายผล นายกมลวัฒน์ หรือ ป๊อบ ยังให้การรับสารภาพอีกว่าวันนี้จะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดกันที่บริเวณวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้วางแผนทาการจับกุมได้ของกลางเพิ่มเป็น ยาเคจำนวน 20 กิโลกรัม พบวางอยู่ภายในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Nissan สีแดง จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายกมลวัฒน์
ผู้ต้องหาที่ 1 พบว่าเคยถูกดำเนินคดี 1.ข้อหาเสพยาเสพติดในพื้นที่ สภ.พุทธมณฑล พ.ศ.2560 2.ข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายในพื้นที่ สภ. นครชัยศรี พ.ศ.2561 และนายสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 พบว่าเคยถูกดำเนินคดี 1.ข้อหาเสพยาเสพติดในพื้นที่ สภ.บางแม่นาง พ.ศ.2553 ในการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมทำการตรวจยึดทรัพย์ตาม พรบ.มาตรการต่อไป

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบตัวผู้ต้อง หาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ. พุทธมณฑลสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.