วันที่ 15 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณี นายแดเนียล ซิโฮมบิง รองกงสุลสถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนี เซีย ประจำจังหวัดสงขลา มาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ด้วยเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 13.00 น. สถานกงสุลฯอินโดนีเซีย จ.สงขลา ได้รับการประสานงานจาสถานทูตอินโดนี เซีย ประ จำประเทศไทย ว่า Mr.SYAWANA (ชาวานา) อายุ 29 ปี สัญชาติ อินโดนีเซีย ถูกชายไทยไม่ทราบจำนวนมารับ Mr.SYAWANA (ชาวานา)ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และพามา ยังพื้นที่อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง
โดยได้ถูกกลุ่มชายไทยซ้อมทรมานแล้วได้มีการอัดคลิปวิดีโอ ส่งไปยังน้องสาว Mr.SYAWANA (ชาวานา) ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงินไทยจำนวน 2,300,000 บาท โดยทางญาติของ Mr.SYAWANA (ชาวานา) ได้โอนเงินมาแล้วบางส่วนจำนวน 800,000 บาท.
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (15 พ.ค.) พล.ต.ต. ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากเสร็จสิ้นการพูดคุยกับผู้ต้องหา และชาวไทย ที่มาจากนราธิวาส 2 ราย ว่าจากการสอบสวนเมเติมพบว่าชาวอินโดนีเซียทั้ง 3 คน เข้ามาทำงานในประเทศไทย และเข้ามาพักอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวจนถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวในที่สุด รวมทั้งถูกทำร้ายร่างกาย และอัดเทปส่งไปยังบ้านของชาวอินโดนีเซีย และพบว่าชาวไทย 2 คนที่เป็นชาวจังหวัดนราธิวาสนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับคดีการอุ้มตัวมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่อย่างใด โดยทั้ง 2 คนเข้ามาในจ.พัทลุง กันเอง โดยไม่รู้จักกันมาก่อน เพิ่มรู้จักกันโดยผ่านการแนะนำจากคนอื่น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมนายชาวานา ชาวอินโด นีเซียได้แจ้งตำรวจว่าเขาถูกโดนอุ้ม ผู้การฯเผยว่า เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง จำนวนหลายวันเขาจึงอยากกลับบ้าน แต่เมื่อผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไม่ยอมให้กลับบ้าน และถูกเรียกเงินจำนวน 2.3 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายก็ได้ให้ปาก คำกับตำรวจไปก่อนแล้ว ในส่วนของผู้ต้องหานั้นก็ได้ให้ปากคำที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเพิ่มข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้นขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของรูปคดี ซึ่งทางตนได้แต่งตั้งชุดสืบสวนสอบสวนขึ้นมาคลี่คลายคดีดังกล่าวแล้ว1ชุด และจะมีการเรียกประชุมในตอนเย็นวันนี้ 15 พฤษภาคม 2567 ส่วนคดีดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย ธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้นผลการสืบสวนสอบสวนยังไปไม่ถึงจุดดังกล่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคดีนี้จะมีนักโทษที่กำลังหลบหนี (แป้งนาโหนด ) เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ทางด้านผู้การฯพัทลุงกล่าวว่าผลการสืบสวนสอบสวนยังโยงไปไม่ถึงนัก โทษคนดังกล่าว
อย่างไรก็ตามการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ต. ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ในครั้งนี้ มีความขัดแย้งกับการแถลงข่าวเมื่อวานของวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวในพื้นที่ จ.พัทลุง ในระหว่างนั้นได้ถูกคนร้ายได้ซ้อมทรมาน และอัดคลิปวิดิโอส่งไปยังน้องสาวที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงินไทย จำนวน 2,300,000 บาท ซึ่งทางญาติได้โอนเงินผ่านชาวอินโดนีเซียมาแล้ว 8 แสนบาทนั้น หลายคนเชื่อว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีระหว่างประเทศที่ต้องใช้ความละเอียดและรอบ คอบในการสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ.
Discussion about this post