นนทบุรี – หนุ่มขับรถสองแถว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ หลอกช่วยเหลือคดี ก่อนสูญเงินค่าเทอมลูกร่วมแสนบาท !!

วันที่ 29 พ.ค. 67 นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี ลงพื้นที่บริเวณ หมู่ 5 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากนายวีระชัย จันทร์กลอง หรือนายดำ อายุ 46 ปี อาชีพขับรถสองแถวรับจ้าง ซึ่งได้สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 (แบบผ่อน) ในเพจเฟซบุ๊ก เพื่อให้ลูกไว้ใช้เรียนหนังสือ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินทำสัญญาซื้อ- ขาย กว่า 6,580 บาท ผ่านไป 1 สัปดาห์ไม่ส่งสินค้าให้ จากนั้นมีไลน์ที่แอบอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ติดต่อเข้ามาและให้แจ้งความออนไลน์ โดยต้องโอนเงินไปอีก รวมแล้วสูญเงินกว่า 80,625 บาท ซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่ต้องเก็บไว้ส่งลูกเรียนหนังสือ ตอนนี้ไม่มีเงินแม้แต่จะไปเช่ารถสองแถวขับ ต้องเก็บขวดขายหาเงินเลี้ยงชีพไปวันๆ จึงมาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายโป้ง ให้ช่วยติดตามคดีและช่วยเหลือให้มีรายได้ดำรงชีพ สามารถเลี้ยงลูกทั้ง 2 คนต่อไปได้

นายวีระชัย ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนอยากซื้อโทร ศัพท์มือถือให้ลูก จึงเข้าไปในเฟซบุ๊กและเจอเพจ “Maprang mobile มะปราง” จากนั้นได้มีการพูดคุยและส่งรายละเอียดการซื้อ-ขาย iPhone 13 ราคาหมื่นกว่าบาท โดยผ่อนเพียงเดือนละ 1,000 บาท งวดแรกให้วางดาวน์ 1,990 บาท ค่าทำสัญญา 2,590 บาท และค่ารับเครื่อง 2,000 บาท รวมแล้ว 6,580 บาท หลังจากที่ตนชำระเงินไปแล้วกว่า 1 อาทิตย์ก็ยังไม่ได้รับของ จากนั้นมีคนทักแชทในเฟซบุ๊กมาบอกว่าเพจนี้โกง และมีไลน์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ทักตนมา บอกให้ตนแจ้งความทางออน ไลน์ ถ้าอยากได้เงินคืนให้ทำตามขั้นตอนที่บอก จึงทำตาม ซึ่งมารู้ตัวว่าเป็นขบวนการมิจฉาชีพทั้งแก๊ง

หลังจากที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปหลายครั้ง ตั้ง แต่ยอด 1,000 5,000 10,000 และ 20,000 บาท รวมแล้วประมาณ 80,625 บาท เป็นเงินที่ยืมมา 40,000 บาท ส่วนที่เหลือคือเงินของลูก ซึ่งเป็นเงินที่ตนเก็บสะสมเอาไว้ส่งให้ลูกเรียนหนังสือ ตอนนี้ตนลำบากมากไม่มีเงินให้ลูกไปเรียน และแม้แต่เงินจะกินก็ไม่มี อยากให้ทนายโป้งมาช่วยเหลือตน ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินแค่ร้อยกว่าบาทเท่านั้น และมีหนี้สินอีก 40,000 บาท ที่ต้องชดใช้คืนภายในสิ้นเดือนนี้ ตนร้องขอความช่วยเหลือไปทุกที่ ทุกเพจแต่ไม่เคยได้รับการตอบรับใดๆ จึงมาร้องที่เพจของทนายโป้ง ตนอยากมีเงินใช้หนี้และอยากส่งเสียลูกให้มีโอกาสได้เรียนหนัง สือเหมือนเดิม ตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 67 แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตอนนี้มันเงียบมาก อยากฝากถึงมิจฉาชีพว่าอย่าเอาความเดือดร้อนของคนอื่นมาเห็นเป็นเรื่องสนุก มันทำให้ชีวิตครอบครัวคนอื่นพังจนไม่เหลืออะไร จากนี้ยังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนส่งให้ลูกเรียน ตอนนี้ทำได้เพียงเก็บขวดขายเพื่อหาเงินประทังชีวิต วันละ 1-200 บาทเท่านั้นเอง

ทนายโป้ง กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากนายดำ ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก เริ่มต้นจากการซื้อโทรศัพท์ให้ลูกไปใช้ในการเรียนหนัง สือ และเลือกซื้อในเพจเฟซบุ๊กเนื่องจากราคาถูก โดยได้มีการวางมัดจำ ทำสัญญากันเรียบร้อย รอกว่า 1 อาทิตย์ก็ยังไม่ได้โทรศัพท์มือถือจึงมีการติดตามทวงถาม ปรากฎว่าหลังจากนั้นมีไลน์ทักเข้ามาอ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ และพูดคุยกัน บอกว่านายดำถูกหลอก และจะช่วยเหลือ โดยมีตำรวจหญิงอีก 1 คน ทักเข้ามาในไลน์แจ้งว่ามีปัญหายอดเงินค้าง ต้องโอนเงินมาก่อน นายดำจึงได้โอนเงินไปทั้งสิ้นประมาณ 80,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ยืมคนอื่นมา และเป็นเงินที่เก็บสะสมไว้ให้ลูก

มารู้ตัวอีกที คือโอนเงินหมดบัญชีแล้ว นายดำจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่สภ.ไทรน้อย เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ผ่านไปกว่า 1 อาทิตย์ ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งอาจจะขาดการสื่อสารในขั้นตอนการติดตามคดี ส่วนในความเสียหายที่ถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้นายดำสิ้นเนื้อประดาตัว ทุกวันนี้ยังไม่กล้าบอกลูกว่าถูกมิจฉาชีพหลอก เพราะกลัวลูกรู้แล้วจะเสียใจ ส่วนหนี้สินที่ยืมเงินมา 40,000 บาท สิ้นเดือนนี้ก็ต้องหาใช้คืนเจ้าหนี้ เบื้องต้น ตนจะรับเรื่องประสานกับพม. จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอาจจะเข้าข่ายในส่วนของผู้ยากไร้ ทางพม.จะมีเงินส่วนหนึ่งที่จะช่วยเหลือเพื่อให้สามารถประคองชีวิตต่อไปได้ และจะช่วยประสานนายกเทศบาลตำบลไทร น้อย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ส่วนเรื่องหนี้สิน เจ้าหนี้เป็นคนในพื้นที่อาจจะให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นเจ้าภาพในการช่วยไกล่เกลี่ย ประคับประคองช่วงนี้ไปเพื่อให้นายดำสามารถตั้งหลักได้ เบื้องต้นจะประสานหน่วยงานทั้งหมดเพื่อให้ช่วยเหลือกันต่อไป.