กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จังหวัดน่านยื่นหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือหลังจากยื่นหนังสือไปแล้วไม่ได้รับคำตอบ

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. ที่ห้องรับรองศาลกลางจังหวัดน่าน อำเภอเมืองน่าน จ.น่าน นายรัตน์ ครุฑนา ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จังหวัดน่าน และภาคเหนือ พร้อมพวกประมาณ 10 กว่าคนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จังหวัดน่าน อธิบดีกรมการค้าภายใน ผ่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน โดยมี นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน มารับหนังสือร้องเรียนแทน หลังจากที่มีตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จังหวัดน่าน และภาคเหนือ ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 16 มีนาคม 2567 และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ กษ1011/3828 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจังหวัดน่าน และภาคเหนือได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตร์ในห้วงเวลาที่คณะรัฐมนตได้มาประชุมสัญจรที่จังหวัดพะเยา แล้วและบัดนี้ได้รับหนังสือตอบรับจากอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร แล้วซึ่งเป็นเวลาล่วงเลยมากว่า 3 เดือนแต่ ยังไม่ได้รับหนังสือตอบรับจากกรมการค้าภายในแต่ประการใดดังนั้นทางกลุ่มเกษตรกรจึงขอทวงถามปัญหาเรื่องขอรับการช่วยเหลือเกษตรที่ผ่านมาว่ามีความคืบหน้าอย่างไรเพื่อที่จะนำมาชี้แจงให้กับกลุ่มเกษตรกรได้รับทราบโดยทั่วถึงกัน ซึ่งปัญหาและข้อเรียกร้องที่เรายังคงรอคำตอบและข้อร้องเรียกร้อง จากท่งกรมการค้าภายในมีดังนี้

เรื่องพิจารณาบุคคลากรทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดน่านทางกลุ่มเกษตรกรมีความกังวลว่าถ้าหายัง
เป็นบุคคลากรชุดเดิมปฏิบัติหน้าที่อยู่ จำทำให้เกิดผลกระทบและความเสียหายกับเกษตรกรอีก จึงขอให้
พิจารณาบุคลากรใหม่ เพื่อเข้าทำหน้าที่ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพภายในปีงบประมาณใหม่นี้ด้วย
จากการติดตามสถานการณ์ข้าวโพดนั้น ได้มีกลุ่มของผู้ผลิตอาหารสัตว์ต่าง 1 รวมถึงผู้ประกอบการได้
ออกมาเสนอขอนำเข้าพืชทดแทนโดยขอยกเลิกมาตรการ 3 ต่อ 1 นั้น ไปจะทำให้เกิดผลกระทบมากกับราคาข้าวโพดในประเทศไทยอยู่มาก ดังนั้นเกษตรกรจึงขอให้ทางกรมการค้าภายในคงไว้ซึ่งมาตรการ 3 ต่อ 1 ต่อไป
เรื่องราคาประกันข้าวโพดนั้นที่ผ่านมานั้นการตั้งราคาประกันไม่ได้นึกถึงจังจังหวัดที่อยู่ห่างไกลจาก
แหล่งผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีต้นทุนในการขนส่งต่างกันในระยะทางและค่าขนส่ง จึงทำให้กระทบกับเกษตรกรที่มี
การขนส่งที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดการขาดทุน ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงนำเรียนท่านพิจารณาว่าการจะตั้งราคาประกันควรจะนำเอาค่าขนส่งมาพิจารณาความเป็นจริง

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น