เป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้ว ที่ชาวบ้านอิม หมู่ที่ 8 ตำบลต้าผาหมอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เรียกร้องแก้ไขมลภาวะที่เกิดจากเหมืองแร่ปล่อยขี้แร่ลงมาทับถมลำห้วยแม่สวก ทำให้น้ำเปลี่ยนทิศทาง ตื้นเขิน กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมดินพังทลาย ปี 2563 สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจการแผ่นดิน หน่วยงานที่ดูแลทรัพยากร
ธรรมชาติ ท้องถิ่น ท้องที่ พร้อมทั้ง DSI ดำเนินคดีเหมือง ฐานบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ แต่ปัจจุบันทั้งคดีและการช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านไม่มีหน่วยงานใดทำตามสัญญา
การแก้ไขปัญหาชาวบ้านเดือดร้อนจากการที่รัฐเปิดให้มีการสัมปทานเหมืองแร่บนภูเขาในตำบลต้าผามอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ และการทำเหมืองเพิ่มในเขตที่ไม่ได้รับอนุญาตจนทำให้เกิดการพังทลายของหน้าดินภูเขาถล่มรวมทั้งขี้แร่ไหลลงไปถมลำห้วยแม่สวก แหล่งน้ำใช้ของชุมชนบ้านอิม จนน้ำเปลี่ยนทิศทางและปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดน้ำป่า

ชาวบ้านบ้านอิ่มหมู่ที่ 8 ได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องนับ 10 ปีแล้วจนปีพ.ศ 2563 ทางราชการมีคำสั่งปิดเหมืองและส่ง DSI เข้าจับกุมดำเนินคดีฐานบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติในบริเวณเดียวกัน มีคณะกรรมการระดับสูง ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจการแผ่นดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับประเทศ ระดับจังหวัด และระดับท้องถิ่น ประชุมหารือแก้ไขปัญหาร่วมกันมีการแบ่งงานไปตามหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การจัดการด้านคดีได้มอบหมายให้ทางกรมป่าไม้ การฟื้นฟูลำห้วยแม่สวกได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและฝ่ายปกครองของจังหวัดแพร่ร่วมกันทำงานคลี่คลายปัญหา การทำงานในครั้งนี้กลายเป็นเพียงฉากหนึ่งของภาครัฐเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นไม่มีหน่วยงานใดลงพื้นที่ทำงานอย่างจริงจังแม้แต่หน่วยงานเดียว รวมทั้งคดีการจับกุมการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติในบริเวณดังกล่าวก็ยังไม่คืบหน้า ในขณะที่ผู้ประกอบการเหมืองพยายามสื่อสารกับชุมชนว่าเหมืองเตรียมตัวเปิดแล้ว
และวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทสงศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จังหวัดแพร่ ได้เข้าไปยังหมู่บ้านอิม เพื่อสอบถามความคืบหน้าผลการดำเนินงานปรากฏว่า ชาวบ้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวว่าการฟื้นฟูแก้ปัญหาให้ชาวบ้านมิได้ดำเนินการมีบางหน่วยงานนำรถแบคโฮเข้ามาขุดลอกเพื่อถ่ายรูปแล้วก็นำรถแบคโฮออกไป
“โด่ง” นายจีระวัฒน์ ดวงประทีป แกนนำชาวบ้าน กล่าวกับว่า ปัญหามลภาวะเกิดมานานกว่า 20 ปี จนชาวบ้านร้องเรียนแต่ก็มิได้แก้ไข ทั้งระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่น และส่วนกลาง โดยเฉพาะส่วนกลางก็ดูแต่เอกสารไม่มาดูสถานที่จริงในการฟื้นฟู ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ไม่เอาใจใส่การแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน และช่วงนี้ชุมชนอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยเนื่องจากมีฝนตกหนัก รวมทั้งสายน้ำที่เปลี่ยนทิศทาง เข้าทำลายพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง
นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่จังหวัดแพร่ วันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในเรื่องนี้ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า สิ่งที่เป็นความทุกข์ร้อนของประชาชนสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดรับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาลรับร้องทุกข์ทุกเรื่อง เมื่อมีเรื่องเข้ามาจะพิจารณาว่าปัญหาเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหนเป็นเรื่องเร่งด่วนพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ถ้าพบว่าเป็นความเดือดร้อนก็จะเร่งดำเนินการทันที กรณีเหมืองแร่บ้านอิม เหมืองแร่ทำลายสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศและเกิดสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติบริเวณหมู่บ้านอิม ตำบลต้าผาหมอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ทราบว่าเรื่องยังไม่ได้รับการแก้ไขแม้ว่ามีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2563 แล้วก็ตาม
“เรื่องนี้จะเร่งเจ้าหน้าที่ทำข้อมูลเพิ่มเติมทบทวนการทำงานใหม่ภายใต้
การบูรณาการร่วมกัน ปัญหาดังกล่าวอาจอยู่คนละช่วงเวลารับผิดชอบของหลายฝ่าย โดยถ้าเริ่มจากวันนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมข้อมูลประเด็นต่างๆที่เป็นความเดือดร้อนไปสู่การแก้ไขปัญหาต่อไป
ธีรพงษ์ ธงออน /แพร่
Discussion about this post