สิ้นปีไม่สิ้นหวัง หลวงพี่น้ำฝน มอบเตียงรถวีลแชร์ ช่วยหัวเรือใหญ่เลี้ยงคน 6 ชีวิต ประสบอุบัติเหตุ

ลูกสาวไม่ถอดใจ เดินหน้าประสานมูลนิธิหลวงพ่อพูลขอรับเตียงผู้ป่วยให้พ่อ หลังประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ขาซ้ายหัก แขนหัก 2 ข้าง โดยเป็นหัวเรือใหญ่ที่ต้องดูแลคนในบ้านรวม 6 ชีวิต หลวงพี่น้ำฝน ลงพื้นที่มอบเครื่องยังชีพให้กำลังใจ พร้อมจัดเตียงสำหรับกายภาพฟื้นตัวต่อสู้ชีวิตเพื่อคนในครอบครัวเป็นของขวัญให้กำลังใจไม่สิ้นหวังส่งท้ายปีเก่า

วันที่ 30 ธันวาคม 67 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม นำเตียงสำหรับผู้ป่วยและข้าวสารอาหารแห่งพร้อมเครื่องยังชีพ เดินทางไปพบ น.ส.สิริธร สุขศล อายุ22ปี บ้านเลขที่ 148/7 ต.ปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งได้ประสานไปยังประธานชุมชนวัดไผ่ล้อม เพื่อขอความอนุเคราะห์เตียงกับรถวีลแชร์ สำหรับดูแล นายสมชาติ สุขศล บิดา ซึ่งปัจจุบันนอนติดเตียง เนื่องจากประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ล้ม ทำให้ขาซ้ายหักและแขนหักทั้ง 2 ข้างโดยตามร่างกายยังมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งซึ่งมีลูกหลานและคนในครอบครัวช่วยกันดูแลอยู่ในบ้านที่มีความคับแคบ

น.ส.สิริธร สุขศล อายุ22ปี บอกว่า นายสมชาติ บิดาทำงานอยู่ที่ โรงงาน ในย่านตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. หลังจากเร่งทำงานจนเกิดความอ่อนล้า และทำงานเกินเวลา และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาถึงบริเวณคอสะพาน ตำบลศาลายาและมีเศษกรวด หิน ทรายอยู่ตรงจุดดังกล่าว ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนขอบทางทำให้ได้รับบาดเจ็บ สาหัสหลายแห่งซึ่งได้ไปนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน เมื่อพ้นขีดอันตราย แพทย์ได้กลับบ้านเพื่อมารักษาตัวต่อ ซึ่งต้องนอนอยู่บนเตียงและใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก

“ที่บ้านเรามีคนอยู่ด้วยกัน 6 คน ซึ่งพ่อจะเป็นหัวเรือในการหารายได้เข้าบ้านมาเลี้ยงดูทั้งหมด 6 ชีวิต ซึ่งปู่และย่าก็เป็นอัมพาตติดเตียง เมื่อพ่อมาประสบอุบัติหตุไม่สามารถไปทำงานได้ก็ทำให้ขาดรายได้ โดยหนูยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม และทำงานหารายได้ช่วยที่บ้านและดูแลตัวเอง และการไม่มีเตียงและรถวีลแชร์ ทำให้ใช้ชีวิตได้ยากลำบากเพราะต้องคอยพยุงตัวและพาพ่อลุกนั่งขยับตัววันละหลายครั้ง ซึ่งหนูเห็นว่าวัดไผ่ล้อมมีโครงการจึงได้ประสานไปยังหัวหน้าชุนเพื่อติดต่อขอรับการช่วยเหลือซึ่งไม่กี่วันหลวงพ่อน้ำฝนก็ได้นำของที่ขอไปมาส่งให้ด้วยตัวเองซึ่งรู้สึกขอบคุณกับเมตตาของหลวงพ่อมากๆ” น.ส.สิริธร เล่าให้ฟัง

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ในกรณีนี้ถือว่าน่าเห็นใจเพราะครอบครัวของบ้านนี้มีพ่อซึ่งเป็นเสาหลักของบ้าน เมื่อมาประสบปัญหาแบบนี้ก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้นเพราะรายได้หายไป และต้องมีการจัดคนมาดูแลทั้งคนเจ็บป่วยและผู้สูงอายุที่เป็นอัมพาตนอนติดเตียงในบ้านเดียวกัน

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้ซึ่งถือเป็นวันส่งท้ายปีเก่าและกำลังจะย่างก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว อาตมาและคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม ยังคงให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือญาติโยม ยิ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดไผ่ล้อมเรายิ่งทอดทิ้งไม่ได้ ซึ่งการที่สังคมจะอยู่ร่วมกันด้วยความผาสุกก็เป็นไปตามหลัก บวร คือบ้าน วัด โรงเรียน ต้องร่วมมือกันและสนับสนุนกันจึงจะทำให้สังคมร่มเย็นเป็นสุข และขอฝากญาติโยมในเรื่องของการขับขี่ยานพาหนะโดยเฉพาะในเทศกาลต่างๆ เช่นในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หากประมาทไม่พร้อมในการขับขี่ก็ควรพักให้เพียงพอ หรือการเมาแล้วขับก็เป็นสิ่งที่ต้องห้าม เช่นกรณีนี้โยมเร่งทำงานหนักจนร่างกายอ่อนเพลีย ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและอาจจะต้องมานอนเจ็บป่วยเช่นนี้ได้ และมีผลกระทบมากกว่าที่คิดไว้ด้วย