วันนี้ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 ตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐมพล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมโครงการอบรมพัฒนาบุคลากรด้านการสืบสวนสอบสวนสมัยใหม่ (นักสืบ 5 G ) รุ่นที่ 2ตำรวจภูธรภาค 7 ประจำปี 2568 พร้อมใบเกียรติบัตร ให้แก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรม จำนวน 23 นาย โดยมี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.พัศวีร์ เรืองภู่ ผบก.อก.ภ.7 พล.ต.ต.วชิรพงย์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พล.ต.ต.กิดติ สุขสมภักดิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อม รอง ผบก.ภ.จว.ผกก.ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 คณะครูฝึก และผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 23 นาย เข้าร่วมพิธี ฯ ณ.บริเวณห้องประชุม 1 ชั้น 4 ตำรวจภูธรภาค 7 ถนน ขวาพระ ตำบล พระปฐมเจดีย์ อำเภอ เมืองนครปฐม จังหวัด นครปฐม
โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ได้กล่าวขอบคุณ ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมทั้งทีมวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วนที่เสียสละเวลามาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการจัดให้มีโครงการฝึกอบรมครั้งนี้ทุกคน และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่สำเร็จการฝึกอบรม ในโครงการอบรมพัฒนาบุคลากรด้านการสืบสวนสอบสวนสมัยใหม่( นักสืบ5G ) ตำรวจภูธรภาค 7 รุ่นที่ 2 ในครั้งนี้ทั้ง 23 นาย เพื่อวางอนาคตด้านการสืบสวนให้มีจิตวิญญาณความเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบที่เน้นการปฏิบัติภาคสนามมากกว่านั่งเรียนภาคทฤษฎีอยู่ในห้องจากภาคทฤษฎีมาปรับใช้ในการจับกุมและคลี่คลายคดี ในยุคปัจจุบัน 5G และนำกลับไปพัฒนาต่อ ยอดงานด้านสืบสวนขับเคลื่อนการทำงานของตำรวจภูธรภาค 7 โดยสืบทอดวิชานักสืบจากรุ่นพี่ๆ ที่มองเห็นความสำคัญของ งานนักสืบที่จะต้องปรับตัวไปตามยุคสมัย โดยมีเป้าหมายการสืบสวนหาตัวคนร้ายและจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และที่สำคัญจะต้องมีหลักฐานให้ศาลพิจารณาบทลงโทษ คนร้าย โดยสร้างเครือข่ายการทำงานทำงาน ผสมผสานกับ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ของรุ่นพี่ให้เกิดประสิทธิภาพการปฏิบัติงานสืบสวนอย่างสูงสุด โดยเน้นปราบปรามอาชญากรรมรูปแบบใหม่ เช่น คดีขบวนการยาเสพติด คดีการค้ามนุษย์ คดีก่อการร้าย โดยใช้นิติวิทยาศาสตร์ ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุขึ้นโดยเร็ว เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับพ่อแม่ พี่น้อง ประชาชน ที่เป็นผู้เสียหาย ให้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป
Discussion about this post