วันที่ 28 เมย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จากนางสาวกาญจนา อายุ 51 ปี เล่าว่าเมื่อคืนวันที่ 21 เมย.68 เวลาประมาณ 20.00 น.ถูกสามีไม่ได้จดทะเบียนสมรสอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยามา 4 ปีในคืนเกิดเหตุสามีได้ให้ตนเองให้ไปหาที่สวนข้างบ้าน จากนั้นได้บังคับให้ตนเองขึ้นรถจักรยานยนต์ไปด้วยและบังคับข่มขู่ต่างๆนานา ตนเองหวาดกลัวแต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยสามีบอกว่าตนเองมีชู้ ซึ่งตนเองก็บอกว่าไม่ได้คบชู้อย่างที่เข้าใจ นายสามีพาขึ้นรถจักรยานยนต์มายังอ่างเก็บน้ำทับลาน
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ใช้กำลังทำร้ายตนเองทั้งเตะต่อยอย่างไม่ยั้ง ตนเองวิ่งหนีลงไปยังหน้าอ่างเก็บน้ำ สามีได้วิ่งตามไปทำร้ายจนตนเองตกลงน้ำในอ่างเก็บน้ำซึ่งมีน้ำลึก ด้วยความกลัวตายจึงร้องให้ช่วย สามีตกใจจึงหยิบกิ่งไม้ยื่นให้จับขึ้นมาจากน้ำ และก็อย่างถูกทำร้ายอีกตนเองจึงร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่หาปลาอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งมีคนอยู่ห่างไกลไม่สามารถได้ยินคำร้องขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งหนีกลับขึ้นมาด้านบนอีกครั้งหนึ่งสามีตามมาทำร้ายและลากตัวไปทำร้ายที่ศาลานั่งเล่นซึ่งห่างจากจุดเดิม 30 เมตร ตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณใต้ขอบตาทั้งสองข้าง ฟันกรามหัก 1 ซี่ เจ็บที่บริเวณชายโครง แขนขาถลอกและบาดเจ็บตามลำตัว จากนั้นตนเองได้โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและโทรแจ้งตำรวจ แค่สามีได้ขับรถหลบหนีไป จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรวังขอนแดงไว้เป็นหลักฐานโดย พ.ต.ท.ศิวภัสส์ ภูริชัญบุญชู สารวัตรเวรสอบสวนสภ.วังขอนแดง ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และแนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่รพ.นาดีแล้วมาแจ้งความในวันต่อไป
วันนี้นางสาวกาญจนา ได้ร้องทุกข์ผ่านสื่อฯซึ่งเกรงว่าเรื่องจะเงียบและได้เดินทางไปยังอบต.บุพราหมณ์ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่ากล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวติดตั้งไว้นั้น กล้องไม่บันทึกภาพจึงไม่มีภาพในคืนเกิดเหตุให้ดูได้ ทันทีที่ได้ฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ฯ นางสาวกาญจนา หน้าถอดสีผิดหวังเพราะไม่มีภาพเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในคดี ซึ่งยอมรับว่าเครียดทางโรงพยาบาลบอกว่าใบรับรองแพทย์หรือใบตรวจร่างกายให้มาไม่ได้ผู้ที่จะนำมาได้ ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ ซึ่งบ่ายวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ตนเองมาดูภาพสเก็ตเพื่อชี้ตัว เพื่อที่ทางตำรวจจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
