อำนาจเจริญ จัดมหกรรมเมืองสมุนไพรโดย ม.อุบลฯ “ฮ่วมกินพาแลง เบิ่งแยงเมืองอำนาจ” ครั้งที่ 2 ที่ห้างบิ้กชีอำนาจเจริญ

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ ห้างบิ๊กซี สาขาอำนาจเจริญ นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมเมืองสมุนไพร “ฮ่วมกินพาแลง เบิ่งแยงเมืองอำนาจ” ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ภายใต้ชุดโครงการวิจัย “การพัฒนาพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนบนฐานเศรษฐกิจชุมชน จังหวัดอำนาจเจริญ ระยะที่ 2 ปีที่ 2” โดยมี ผู้แทนหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน วิสาหกิจชุมชน และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทัย อันพิมพ์ คณบดีคณะบริหารศาสตร์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยห่วงโซ่คุณค่าสมุนไพร ซึ่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กิจกรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับพื้นที่ ทั้งด้านสังคมและผลิตภัณฑ์สมุนไพร พร้อมบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันจังหวัดอำนาจเจริญสู่การเป็น “เมืองสมุนไพร” ตามแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การปลูกและแปรรูปสมุนไพร การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงเมนูอาหารจากเชฟท้องถิ่นที่นำสมุนไพรมาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากนี้ยังมีการให้บริการโดยเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และครัวเรือนยากจนที่เข้าร่วมโครงการกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นเวทีแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการวิจัยที่สร้างรายได้ สร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ทางด้าน นายฐิติ ราศีกุล อาจารย์คณะบริหารศาสตร์ ม.อุบลราชธานี นักวิจัยโครงการแก้จนอำนาจเจริญ ให้สัมภาษน์ว่า งานวันนี้ที่จัดขึ้นเรียกว่างานมหกรรมสมุนไพรและอาหารของจังหวัดอำนาจเจริญ
เราจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วและจัดมาอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้วซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มันเป็นผลสืบเนื่องมาจากงานวิจัยครับเราแสดงผลการวิจัยให้เห็นว่า วิธีการที่จะทำให้ครัวเรือนยากจนมีชีวิตที่ดีขึ้นมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นผ่านกิจกรรมของการเข้าร่วมที่เรียกว่าห่วงโซ่คุณค่าหรือ Value chain ของการปลูกพืชสมุนไพรซึ่งจังหวัดอำนาจเจริญเนี่ยมีจุดเด่นก็คือว่ามีสมุนไพรในพื้นที่เยอะแล้วก็เป็นหนึ่งจังหวัดที่นับเป็นจังหวัดสมุนไพรของประเทศนะครับ เพราะฉะนั้นคนครัวเรือนยากจนเป้าหมาย ก็จะเข้าร่วมไม่ว่าจะเป็นการเริ่มจากการปรุงการร่วมดูแลแปลงนะครับแล้วก็คนไหนที่เขามาแปรรูปเป็นแฟนแปรรูปขั้นต่ำขั้นต้นเช่นการล้างการสัปเพื่อส่งสมุนไพรสดหรือแม้กระทั่งว่าแปรรูปเป็นสมุนไพรแห้งแล้วก็ส่งโรงงานนะครับรวมไปถึงเราก็แปรรูปเป็นอาหารนะครับเช่นเอ่อเป็นน้ำพริกหรือว่าเป็นอาหาร อย่างอื่นวันนี้ก็มีร้านอาหาร 4 ร้านครับเข้ามาช่วยเอาสมุนไพรของเราใส่คิดเช่นได้ออกมา หรือว่าเป็นอาหารอย่างอื่นวันนี้ก็มีร้านอาหาร 4 ร้านครับเข้ามาช่วยเอาสมุนไพรของเราใส่ชีสเช่นได้ออกมาเป็นแกงอ่อมวุ้นเส้นแบ่งออกเป็นสาโทสมุนไพรอย่างเป็นต้นครับซึ่งพวกการของอำนาจเจริญก็ยินดีครับแล้วก็พร้อมเพียยงกันมากทีนี้ก็นอกจากร้านอาหาร 4 ร้านแล้วก็ยังมีพ่อค้าประชาชนเข้ามาร่วมงานด้วยซึ่งพ่อค้าประชาชนที่ว่าที่จะเข้ามาร่วมได้ก็จะต้องมีครัวเรือนส่วนเป้าหมายของเราเนี่ยอยู่ในนั้นด้วยซึ่งทั้งมวลก็ได้เก็บข้อมูลไว้แล้วครับว่าพอเดินยากจนไม่มีใครบ้างในจังหวัดมีจำนวนเท่าไหร่แล้วในพื้นที่เนี้ยแทบทุกอำเภอครับยังมีคนยากจนอยู่เยอะมากครับ

อาจารย์คณะบริหารศาสตร์ ม.อุบลราชธานี ยัวกล่าวอีกว่า โครงการนี้จริงๆแล้วเป็นเป็นการแสดงผลงานนะครับแต่ว่าเราได้เปิดตลาดไว้ให้แล้วนะครับพี่บิ๊กซีแห่งนี้ล่ะครับเปิดบูธไว้ให้ตรงหน้าบริเวณทางเข้าฝั่ง KFC ของบิ๊กซีนะครับซึ่งบิ๊กซีนี้จะเป็นหน่วยงานสำคัญนะครับซึ่งมี MOU ร่วมกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีอยู่แล้วนะครับท่านก็ได้ให้ความอนุเคราะห์เปิดพื้นที่ตลาดไว้ให้ก็มีสินค้าต่างๆที่แปรรูปแล้วนี่ล่ะครับแม้กระทั่งผักสดเนี่ยมาขายที่นี่นอกจากนั้นแล้วเราก็ได้มีการขายในลักษณะที่เป็นการขายส่งผลิตภัณฑ์เช่นตะไคร้สดหรือตะไคร้สับต่างแห้งไปยังโรงงานต่างๆอยู่แล้วซึ่งถามว่าการที่เราจัด Event แบบนี้เนี่ยก็ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ครับให้คนทั่วไปได้ทราบว่าเมืองเมืองอำนาจเจริญของเราเนี่ยมีสินค้าดีมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เป็นไปได้จริงนอกจากที่ตั้งชื่อกันว่าเป็นอำนาจเมืองสมุนไพรแล้วเรายังมีผลิตภัณฑ์จริงมีการทำงานจริงแล้วก็เพื่อผลประโยชน์ให้แก่ตรัวเรือนยากจนได้ด้วยครับ

ชึ่งโครงการนี้จะเป็นการให้กลุ่มคนที่ยากจน เข้าถึงได้เร็วขึ้นครับสังเกตว่าเราจะเชิญวิสาหกิจชุมชนหรือเชิญผู้ประกอบการที่อยู่ในท้องถิ่นอยู่แล้วซึ่งมีความใกล้ชิดกับครัวเรือนเป้าหมายอยู่แล้วโดยปกติของคนเดินเป้าหมายเขาอาจจะไม่กล้าหรือไม่มีโอกาสในการเข้าร่วมวงธุรกิจอะไรมากนักด้วยภาระที่จำเป็นของทางบ้านนะครับบางบ้านก็มีมีภาวะพึ่งพิงอยู่มีผู้ป่วยติดเตียงมีเด็กเล็กมีผู้พิการอย่างนี้ บางทีมันทำให้เขาไม่สามารถไปทำงานรับจ้างได้ทั่วไปหรือแม้กระทั่งเขายังไม่สามารถจะส่งลูกหลานให้ไปเรียนต่อหรือให้ไปทำงานในอื่นๆได้ดังนั้นเนื่องจากข้อจำกัดเหล่านี้ล่ะครับที่บอกว่าให้คนจนเข้ามาร่วมในห่วงโซ่เนี่ยเขาอาจจะเข้ามาร่วมได้เป็นบางวันมาตัดแต่งได้เป็นบางวันไปดูแลแปลงได้เป็นบางวันก็ได้ค่าจ้างรายวันซึ่งถามว่าเพียงพอต่อการดำรงชีวิตใหม่อาจจะไม่ได้อยู่กับเพียงพอนะครับแต่ว่าก็ได้ช่วยเหลือได้ด้วยก็คือโดยปกติ อย่างต่ำก็วันละ 50 บาทบางวันที่เขาขยันมากเขาก็ได้ถึง 200 บาท อย่างนี้เป็นต้นครับ/

ภาพข่าว/ทิพกร หวานอ่อน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ รายงาน