วันนี้ 23 พ.ค. 68 ที่จังหวัดนครพนม เกษตรกรชาวบ้านกุดฉิม ตำบลกุดฉิม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม กำลังเผชิญกับวิกฤตราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หอมแดง พืชเศรษฐกิจสำคัญริมฝั่งโขง ที่ปีนี้ราคาดิ่งเหวเหลือเพียงกิโลกรัมละ 15 บาท จากปกติ 30-40 บาท สวนทางกับราคาปุ๋ยเคมีภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระขาดทุนย่อยยับ ไม่คุ้มแม้กระทั่งค่าปุ๋ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ยังไม่รวมค่าแรงและค่าเสียโอกาสในชีวิต สร้างความเดือดร้อนแสนสาหัสจนแทบไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ลูกหลานเปิดเทอมก็ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินรุงรัง
ชีวิตที่สิ้นหวังรอคอยความช่วยเหลือ
เกษตรกรหลายรายระบายความอัดอั้นตันใจว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาแทบจะสิ้นหวัง ดีที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ได้พักชำระหนี้ให้ แต่เงินที่จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแทบไม่มีเลย สร้างความกังวลใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อลูกหลานต้องเปิดภาคเรียน และที่สำคัญคือ ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ความหวังของเกษตรกรริบหรี่ลงทุกวัน
ด้าน นายแพทย์อลงกต มณีกาศ ส.ส. นครพนม เขต 3 ไม่ได้นิ่งนอนใจ มอบหมายให้ นายสุนทร บุญมณี ผู้ช่วย ส.ส. นครพนม ร่วมกับ นายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอธาตุพนม และเกษตรอำเภอ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากเกษตรกรผู้ปลูกหอมตำบลกุดฉิมเบื้องต้น พร้อมให้เกษตรกรรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
เกษตรกรทุกคนต่างฝากความหวังไว้กับ ส.ส. อลงกต มณีกาศ ให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง นำปัญหาความเดือดร้อนนี้ไปสู่รัฐบาล เพื่อหามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้ สมดังสโลแกนที่ว่า “พูดแล้วต้องทำ รับปากแล้วต้องได้”
มาร่วมกันติดตามว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมริมโขงที่กำลังประสบวิกฤตนี้ได้อย่างไรบ้าง และจะสามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้หรือไม่?
