วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ที่ศาลาประชาคม หมู่9 ต.ออนกลาง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมนายภัครธรณ์ เทียนไชย รองเลขาธิ การพรรค ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง พปชร. และคณะได้ลงพื้นที่พบปะ และรับฟังปัญหากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ที่กำลังเผชิญกับปัญหาราคาน้ำนมดิบตกต่ำ และอุปสรรคเข้าถึงกองทุนฟื้นฟูเกษตรกรกร มีตัวแทนกลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบเข้าร่วมนำเสนอปัญหา รวมกว่า 100 คน

นายสุรเดช กล่าวว่า เป็นตัวแทนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. เพื่อรับฟังปัญหาประชาชนที่ร้องเรียนผ่านว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรค แม้ไม่ได้เป็นส.ส.เชียงใหม่ ก็ตาม ซึ่งเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของพรรคในการเข้าถึงและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชนระดับรากหญ้า พร้อมเปิดเวทีรับฟังปัญหาสำคัญจากกลุ่มเกษตรกรหลายประเด็น อาทิ ปัญหาน้ำนมดิบราคาตกต่ำ ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม พื้นที่ อ.แม่ออน ได้รับผลกระทบเพราะตอนนี้ราคาน้ำนมดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้มีปัญหาจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ. เชียงใหม่ ซึ่งตัวแทนเกษตรกร
ได้หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับซื้อหนี้ และขอรับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุน การผลักดัน และส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มดังกล่าวซึ่งการทำงานพรรค ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ตาม
ต่อมาช่วงบ่าย ที่ร้านสิบสองปันนา ต.วัดเกตุ อ.เมืองเชียงใหม่ นาย สุรเดช พร้อมนายภัครธรณ์ ได้พบปะกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ลำพูน, น่าน, แม่ฮ่องสอน, พะเยา และแพร่ มีนายสันติ ตันสุหัช อดีต ส.ส.เชียงใหม่ 3 สมัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ปัจจุบันสังกัด พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายวิทยา ทรงคำ อดีต ส.ส. 5 สมัย และอดีตเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, นายพรชัย อรรถปรี ยางกูร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคไทยรักไทย และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พปชร. นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ อดีตส.ส.เชียงใหม่ 2 สมัย อดีตกรรมการบริหารพรรคความหวังใหม่ นายถาวร เกียรติไชยากร อดีต ส.ว.เชียงใหม่,นายพจนารถ ศรียารัณย์ อดีต ส.อบจ.เชียงใหม่ นางศรีพรรณ เขียวทอง อดีตนายกเทศมนตรี ต ดอนแก้ว อ.สารภี นายยุทธนา สุวรรณ อดีตส.อบจ.อ.สารภี และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พปชร.ภาคเหนือตอนบน เข้าร่วมกว่า 30 คน
นายสุรเดช กล่าวว่า ในฐานะรองหัวหน้า พปชร ที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ซึ่งตนเป็นอดีตส.ว.พะเยา มาก่อน เพื่อเตรียมเลือกตั้ง ส.ส. อีก 2 ปีข้างหน้าได้ขอ พล.อ. ประวิตร ว่าถ้าได้ตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 34 เขตแล้ว ขอไปช่วยคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอื่นด้วย โดยใช้เครือข่าย เมื่อครั้งเป็นอดีตส.ว. ปัจจุบันพรรค มีส.ส.อยู่ 19 คนและเป็นฝ่ายค้าน แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ยังยึดเรื่องแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนเป็นสำคัญ
“การลงพื้นที่ เพื่อหาตัวว่าที่ผู้สมัครดังกล่าว เพื่อเตรียมรับเลือกตั้ง เมื่อสรรหาได้แล้วไม่อยากให้ยุบสภา หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นพร้อมเลือกตั้งทันที เพราะเค้าลางมันมีมาอยู่เรื่อยๆ บางทีมีเค้าแต่ฝน แต่ไม่ตกก็มี ส่วนเรื่อง ส.ส. ย้ายพรรค และถูกดูดไป พล.อ. ประวิตร ไม่ได้ติดใจ และเป็นห่วงอะไร ถือว่าเป็นเรื่องปกติเ พราะมันขึ้นอยู่กับกระแสและนโยบาย ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อใดประชาชนเท่านั้นเป็นผู้ตัดสิน อำนาจอยู่ในมือประชาชน พล อ.ประวิตร บอกเลือกตั้งครั้งหน้า อยากได้60 ที่นั่ง แต่ผมอยากเพิ่ม 1 เท่าตัว หรือ 120 ที่นั่ง เพื่อให้พรรคเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าด้วย
นายสุรเดช กล่าวอีกว่า พปชร. มีนโยบายชัดเจนแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน ปก ป้องสถาบัน ไม่แก้ ม.112 และไม่เอาบ่อนคาสิโนแน่นอน ซึ่งพล.อ.ประวิตรไม่เคยเป็นเผด็จ การ ไม่เคยปฏิวัติ แต่เป็นทหารซึ่งมีอดีตทหารหลายคนที่เกษียณแล้วออกมาตั้งพรรคการเมือง ซึ่งพล อ.ประวิตร มีอายุ 80 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรง แม้ตกบันไดถึง 4 ชั้น ยังเดินได้ปร๋อ ถ้าท่านไม่รักไม่ห่วงประชาชน คงไม่ทำพรรคการเมือง
“วันนี้การเมืองวุ่นวาย แต่พรรคเรานิ่ง เราเคยวุ่นวายมาก่อนตอนนี้เราเปลี่ยนโลโก้ใหม่ มีคนที่มีคุณวุฒิเข้ามามากมาย และพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา ทั้งนี้ยุทธศาสตร์สำคัญหาเสียงเลือกตั้ง คือมีความจริงใจ จริงจัง ช่วยเหลือปากท้องประชาชน เพราะเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ทันสมัยลดช่องว่างระหว่างชนชั้น และความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วย” นายสุรเดช กล่าวตอนท้าย
Discussion about this post