เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 68 เวลา17.00น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุฟ้าผ่าวัวของชาวบ้านตายคาคอก4ตัว ในพื้นที่หมู่10 บ้านโนนป่าชาติ ต.หนองฉิม อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ได้พบกับนายบุญมา แต่งทรัพย์ อายุ69ปีและ นางทองจันทร์ แต่งทรัพย์ อายุ59ปี 2สามีภรรยา บ้านเลขที่ 256 หมู่10 บ้านโนนป่าชาติ ต.หนองฉิม อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ เจ้าของวัวที่ถูกฟ้าผ่าลงมากลางคอกตายรวดเดียว4ตัวสูญเงินกว่าแสนบาท พร้อมเผยว่า ขณะ ที่ตนเองนั่งหลบฝนอยู่ในบ้านช่วงบ่ายวันนี้ ตนได้นำวัวขังเลี้ยงไว้ในคอกทั้งหมด14 ตัว ขณะเดียวกันก็มีฝนตกปอยๆลงมาและจู่ๆได้เกิดมีเสียงฟ้าเบี้ยงลงมาในคอกวัวของตนเองอย่างแรง ซึ่งขณะนั้นตนและภรรยานั่งหลบฝนอยู่ในบ้านซึ่งอยู่ติดๆกับคอกวัวห่างกันประมาณ5เมตร รู้สึกตกใจและกลัวมากๆ สิ้นเสียงฟ้าผ่าตนได้ยินเสียงวัวร้องบ่อๆๆจึงออกมาดู พบว่าวัวเพศเมียจำนวน4ตัวนอนแน่นิ่งเรียงกันอยู่ตรงรางกินอาหาร ส่วนอีก10ตัวพากันแตกตื่นอยู่ในคอก ด้านนายบุญมากล่าวอีกว่า ตอนแรกตนเองเห็นวัวเพศเมีย1ตัวยังหายใจรวยริน จึงพยายามจะไปหาเหล้าขาวมาเป่าให้แต่ก็ช่วยยื้อชีวิตไว้ไม่ทันวัวดังกล่าวก็สิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา รู้สึกหดหู่ใจมาก แต่ก็งงเหมือนกันว่าฟ้าที่ผ่าลงมาในครั้งนี้ไม่ทิ้งร่องรอยให้เห็นเลยว่าอะไรเป็นพาหะที่ก่อให้เกิดฟ้าผ่าในครั้งนี้ท ตนและครอบครัวงงกับเหตุการณ์ใครั้งนี้มากพยายาเดินรอบคอกวัก็ไม่พบเจอสาเหตุ หลังคาก็ไม่มีรอยผ่าแม้แต่นิดเดียว เกิดมาก็พึ่งเคยเจอยังผวากับเหตุการณ์ในครั้งนี้มาก วัวที่ตายในครั้งนี้ มีวัวที่กำลังตั้งทอง 2ตัว วัวแม่ลูกอ่อน 1ตัว วัวสาว1ตัว ซึ่งในระยะนี้ตนเองยังผวาอยู่ต้องเอาวัวไปขังเลี้ยงที่คอกอื่นก่อนเพื่อรอให้ท้องฟ้าเปิดฝนจางลงจึงจะนำกลับมาใส่คอกเดิมอีกที่ ส่วนวัว ที่ถูกฟ้าผ่าตายในครั้งนี้ได้มี พ่อค้าวัว มาเหมาไปในราคา หนึ่งหมื่นกว่าบาท ซึ่งได้เท่านี้ยก็ยังดีกว่าฝังทิ้ง เพราะถ้านำไปฝังก็จะต้องจ้างรถแม็คโครมาขุดให้ก็จะหมดเงินเพิ่มอีกแต่ถ้าจะให้ทำกินต้นก็แก่แล้วทำไม่ไหวเพราะหลายตัวอีกอย่างคงกินไม่ลงเพราะตนเองเลี้ยงมากับมือ สงสารแต่ลูกวัว3เดือนที่ยังไม่อย่านมต้องมากำพร้าแม่ในครั้งนี้ ส่วนตนและภรรยานับว่าฌโชคดีที่ไม่โดนฟ้าผ่าเข้าไปหาซึ่งอยู่ห่างจากคอกไม่เกิน5เมตรด้วยซ้ำเป็นความโชคดีที่รอดมาหวุดหวิด
ด้านนางภัทรชนันท์ ผ่องผาด นายอำเภอเนินสง่า ได้ออกมาเตือนเกษตร ให้ฟังการแจ้งเตือนจากผุ้นำชุมชน และเตือนเกษตรกรที่ออกไปเลี้ยงสัตวหรือทำสวนหากพบว่าท้องฟ้ามืดครึ้มก็ให้รีบกลับเข้านำสัตว์เลียงกลับเข้าคอกหรือทำไร่อยู่ก็ให้หาที่หลบให้ปลอดภัย เพราะอาจจะเกิดการศูนย์เสียซ้ำอีกได้ สำหรับเหตุการณ์ฟ้าฝ่าสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในครั้งนี้ทางอำเภอได้มอบหมายให้ปศุสัตว ผู้นำท้องถิ่นและผู้นำชุมชนเข้าไปดูแลและหาแนวทางช่วยเหลือแล้ว ซึ่งเบื้องต้นได้นำยาและอาหารเสริมไปมอบให้กับเกษตรกรใช้บำรุงสัตว์เลี้ยงจำนวนที่เหลือซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากฟ้าผ่าในครั้งนี้แล้ว ซึ่งทางอำเภอจะได้ดำเนิน ตามแนวทางที่จะช่วยเกษตรกรให้ได้โดยเร็วต่อไป/////////////
//////////////วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ 098-6368829////////////////
