ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ สิริพฤกษา โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ว่าที่ร้อยตรีศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ภายหลังการจัดทำร่างผังเมืองรวมเมืองกาญจนบุรี โดยมีตนเป็นผู้กล่าวต้อนรับ นายภัทรพงศ์ สุภัทรนัต ผู้อำนวยการส่วนผังเมืองรวมที่ 4 พร้อมกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ

โดยมีนายสหพันธ์ รุ่งโรจรพณิชย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 นางสาวณัฐรินทร์ พงษ์วิทยภานุ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี นายทวีศักดิ์ ฉันท์แต่ง เลขาธิการหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี นางสาวกุลฉัตรชิญา ภูเงิน กรรมการหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ องค์กร หน่วยงาน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เขตวางผัง ร่วมรับฟังการนำเสนอร่างผังเมืองรวมเมืองกาญจนบุรี จากบริษัทที่ปรึกษา (บริษัท ซิตี้ แพลน โปรเฟสชันนอล จำกัด) และให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้เสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการดำเนินโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวม เพื่อรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีในอนาคต
ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนยื่นเสนอความเห็นและหนังสือสงวนสิทธิในการยื่นคำร้องขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงในผังเมืองรวมได้ จนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2568 เพื่อจะได้รวบรวมประเด็นความเห็นและคำร้องประกอบการพิจารณาทบทวนปรับปรุงร่างผังเมืองรวมเมืองกาญจนบุรี และนำเสนอต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมในเขตจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงานพิจารณาด้านผังเมืองกรมโยธาธิการและผังเมือง คณะอนุกรรมการผังเมือง และคณะกรรมการผังเมือง ตามขั้นตอนที่พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 ตามลำดับ ซึ่งการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจัดขึ้นที่ห้องประชุมโรงแรม อาร์-เอส ราชศุภมิตร อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี ที่ผ่านมานางสาวณัฐรินทร์ พงษ์วิทยภานุ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวว่า นักลงทุนโรงแรมรายใหญ่มองเห็นศักยภาพของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างดี แต่นักลงทุนนั้นมีความกังวลใจเรื่องการควบคุมความสูงของโรงแรมที่จะมาลงทุนก่อสร้าง เนื่องจากผังเมืองของจังหวัดกาญจนบุรีไม่อนุญาตให้ก่อนสร้างอาคารสูงเกิน 23 เมตร หรือสูงเกิน 8 ชั้น
ดังนั้นจึงขอเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอนุญาตให้นักลงทุนเหล่านี้สามรถดำเนินการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่และสูงได้มากกว่า 23 เมตร หรือมากกว่า 8 ชั้นได้ เพราะนักลุงทุนบางรายต้องการสร้างโรงแรมที่มีห้องพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมากถึง 100-200 ห้อง เพื่อความคุ้มทุน เช่น กลุ่ม Holiday Inn เป็นต้น
ซึ่งการก่อสร้างอาคารสูงเกิน 23 เมตร ไม่ทำให้บดบังทัศนียภาพของเมืองอย่างแน่นอน หากอนุญาตตามที่เสนอไปจะทำให้นักลงทุนอีกหลายกลุ่มกล้ามาลงทุนอย่างแน่นอนซึ่งจะทำให้จังหวัดกาญจนบุรีเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่เข้าระบบเนื่องจากปัญหาที่ดิน ทำให้เกิดปัญหาการควบคุม ทั้งเรื่องสุขลักษณะอนามัย หรือการบริการอื่น ๆ ทำให้ส่งผลต่อชื่อเสียงด้านโรงแรม
นอกจากนี้ยังเสนอในที่ประชุมอีกว่า ขอเสนอให้ส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับศูนย์สุขภาพ (Wellness Centre) สำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มวัยเกษียณให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรีของเรามีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯเพียงแค่ประมาณ 129 กิโลเมตรเท่านั้น ที่สำคัญเมื่อถนนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ จะทำให้การเดินทางง่ายและสะดวกรวดเร็วโดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาทีเท่านั้น
รวมถึงให้สนับสนุนดึงดูดชาวต่างชาติจากจังหวัดภูเก็ต ให้หันมาใช้ชีวิตวัยเกษียณที่กาญจนบุรี เพราะค่าครองชีพถูกกว่า อีกทั้งให้สนับสนุนกิจกรรมเกษตรแปรรูป ในการดึงดูดนักลงทุนด้านอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะอ้อย น้ำตาล และมันสำปะหลัง เพื่อให้เกษตรกรอยู่รอดได้
ขณะที่นายสหพันธ์ รุ่งโรจรพณิชย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)กล่าวในที่ประชุมว่า ประชากรจากภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เริ่มเข้ามาอยู่อาศัยและท่องเที่ยวที่กาญจนบุรีมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกใช้เวลาไม่นานเนื่องจากมีถนนมอเตอร์เวย์ M81 รองรับในการเดินทาง อนาคตอาจจะกลายเป็นพื้นที่รองรับการพักอาศัยของประชากรจากกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
Discussion about this post