
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.68 ที่ห้องประชุมที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมด้วย พลตำรวจตรีสุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชลธิศ สุรัสวดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการที่ดิน คทช.ประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินของรัฐ พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียน จากประชาชนในพื้นที่ โดยมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและหาทางออกในข้อพิพาทดังกล่าวโดยคำนึงถึงหลักกฎหมาย ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและการธำรงรักษาไว้ ซึ่งทรัพยากรอันมีค่าของประเทศ มี ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมแผนที่ทหาร รวมถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้แทนกองพลทหารราบที่ 9 และศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหารือร่วมกันเพื่อรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงจากหน่วยงานราชการ ตามข้อเรียกร้องกรณีขอให้พิจารณาเร่งรัดแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินระหว่างหน่วยงานของรัฐกับราษฎรในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
สภาพปัญหา เดิมบริเวณพื้นที่พิพาท ในท้องที่ตำบลด่านแม่แฉลบ ตำบลนาสวน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สงวนหวงห้ามไว้ใช้ในราชการทหาร ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้าม ที่ดินในท้องที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอวังขนาย อำเภอบ้านทวน และอำเภอวังกะ จังหวัดกาญจนบุรี พุทธศักราช 2481
เมื่อวันที่18 ธันวาคม 2524 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาพระฤๅษี และป่าเขาบ่อแร่ ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลหินดาด ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ ตำบลเขาโจด ตำบลนาสวน ตำบลด่านแม่แฉลบ ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอจัดสรรตอนบนเกือบทั้งหมด เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งรวมพื้นที่บริเวณพิพาทประมาณ 81,062 ไร่ อยู่ด้วย
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2529 ได้มีพระราชกฤษฎีกาถอนการหวงห้ามที่ราชพัสดุ ที่ได้หวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์ในราชการทหาร ในท้องที่ตำบลนาสวน และตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ.2529 โดยนำเนื้อที่ประมาณ 81,062 ไร่ โดยมีเจตนารมณ์ให้นำไปจัดสรรให้แก่ราษฎร ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
ซึ่ง กฟผ. ได้นำไปจัดสรรให้แก่ราษฎรจำนวน 900 ครอบครัว เนื้อที่ประมาณ 15,000 ไร่ ให้มีที่ดินทำกินและอยู่่อาศัย แต่พื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดยังคงอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ นอกเขตเพิกถอนที่สงวนหวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2481 พื้นที่ประมาณ 23,000 ไร่ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯ และยังมีสภาพเป็นพื้นที่หวงห้ามด้วย
การลงพื้นที่ที่มีการเพิกถอนนั้น บางส่วนยังมีสภาพป่าและพื้นที่เกษตรกรรม โดยได้ทำการ สำรวจความหลากหลายและความหนาแน่นของต้นไม้ พร้อมใช้อากาศยานไร้คนขับบันทึกภาพความสมบูรณ์ ของพื้นที่ป่าและพื้นที่่เกษตรกรรม พบว่าสภาพป่ายังคงมีความสมบูรณ์ และมีไม้มีค่า ไม้หายากหลากหลายชนิด ตลอดจนหาความหนาแน่นของต้นไม้ด้วยเทคนิค Thrumb Method พบว่ามีค่าความหนาแน่นของป่าเต็งรังสูงกว่าค่ามาตรฐานสากล มากถึง 27 เท่า
หลังจากคณะทำงานลงพื้นที่สำรวจปัญหาแล้ว ได้ประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินระหว่างหน่วยงานรัฐกับราษฎรบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยที่ประชุมได้มีแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยสรุปได้ ดังนี้
- เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์การเพิกถอนที่หวงห้ามเมื่อปี พ.ศ.2529 เห็นควรปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ฝั่งทิศตะวันออก ประมาณ 81,062 ไร่ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ กรมแผนที่ทหาร และกรมที่ดินไปดำเนินการตรวจสอบแนวเขตให้ชัดเจนต่อไป
- เห็นควรมอบหมายให้กรมที่ดินดำเนินการตามกฎหมายแก่ราษฎรในพื้นที่ที่มีการเพิกถอน การหวงห้าม เมื่อปี พ.ศ.2529 โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ โดยราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ และราษฎรผู้ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ให้สงวนพื้นที่คงสภาพป่าเป็นสมบัติของชาติต่อไป
- จากข้อเสนอให้มีการปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ครั้งนี้ พบว่า ยังคงมีพื้นที่นอกเขตการเพิกถอนการหวงห้ามซึ่งปัจจุบันยังถือว่าเป็นเขตอุทยานและเป็นพื้นที่หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2481 ประมาณ 23,000 ไร่ ยังคงสภาพป่าประมาณ 18,000 ไร่ และพื้นที่เสื่อมสภาพ ประมาณ 5,000 ไร่ เห็นควรนำพื้นที่คงสภาพป่ามาผนวกเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ โดยผ่านความยินยอมของหน่วยงานผู้มีหน้าที่ หวงห้ามตามกฎหมาย
และ 4.มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการเสนอ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า “ท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เน้นย้ำให้เร่งแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยฟังเสียงประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ต้องคำนึงถึงการสงวนรักษาคงสภาพป่า และรักษาระบบนิเวศน์ เพื่อเป็นสมบัติของชาติต่อไป รัฐบาลมีความมุ่งมั่น ตั้งใจและพร้อมจะเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ร้องเรียน ผ่านมาทางศูนย์รับเรื่องราวทุกข์ ของรัฐบาล 1111”
ขณะเดียวกันนั้น นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 เจ้าของพื้นที่ได้กล่าวแสดงความยินดีไปถึงพี่น้องประชาชนชาวอำเภอศรีสวัสดิ์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ว่า ใกล้ความจริงแล้วทนอีกนิดเดียว คนศรีสวัสดิ์ก็จะได้รับความเป็นธรรมแล้ว เรื่องแก้ปัญหาของผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ยังไม่ได้เอกสารสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2518 เป็นเวลายาวนานถึง 50 ปี ขอบคุณท่านนายกแพทองธาร ชินวัตร ที่ได้ใส่ใจการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ของประชาชน ขอบคุณท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายรัฐมนตรี ที่เป็นผู้เริ่มต้นนำปัญหาไปสู่การแก้ไข ขอบคุณท่านอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่อุทยานทุกท่านที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จ รวมถึงขอบคุณคณะกรรมาธิการนโยบายที่ดินแห่งชาติที่เร่งรัดดำเนินการให้
////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
Discussion about this post