
เวลา 16.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2568 ที่อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อ.อัมพวา นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ รองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม นางยลกานต์ เที่ยงแท้ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนวัฒนธรรม จ.สมุทรสงคราม นายพรชัย แสงอังศุมาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านแหล่งน้ำมูลนิธิชัยพัฒนา (ผู้แทนเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา) นายธนวัฒน์ รุ่งเรืองศรี นายอำเภออัมพวา และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวจัดงาน “วิถีถิ่น วิถีไทย แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดฯร่วมกับโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ และอำเภออัมพวา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้นต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 5 ก.ค. ถึงวันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค. 2568 รวม 6 สัปดาห์ ที่โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ และอุทยาน ร.2 เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวสมุทรสงคราม พร้อมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมให้เกิดความยั่งยืน ตลอดจนสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่รวมทั้งมุ่งหวังให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทุกกลุ่มได้ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่นและร่วมกันฟื้นฟูสืบทอดอัตลักษณ์ไทยให้คงอยู่สืบไป
สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ได้มีการสาธิตกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในงานดังกล่าว เช่นสาธิตการทำเครื่องแขวนตามแบบไทยโบราณ การรีดร่ำสไบและผ้าแบบวิถีไทย และการสาธิตอาหารในวรรณคดี “แกงนางลอย” จากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน “นางลอย” บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เป็นแกงเผ็ดพริกหยวกสอดไส้หมูสับหมักสามเกลอคือกระเทียม พริกไทยและรากผักชี ใส่กะทิหอมๆ รสชาติกลมกล่อม ซึ่งเปรียบพริกหยวกสอดไส้เป็น”นางลอย”คือ นางเบญกาย ที่มีการสอดไส้ปลอมตนมาเช่นกันเนื่องจากนางเบญกายเป็นลูกสาวของพิเภก ที่แปลงกายเป็นนางสีดาเสียชีวิตลอยน้ำมาตบตาพระรามตามคำสั่งของทศกัณฐ์ แต่ถูกจับได้ เมื่อหนุมานพิสูจน์ด้วยการนำร่างที่แปลงว่าเป็นศพนางสีดาขึ้นตะกอนเผาไฟ เบญจกายจึงกลายร่างและถูกหนุมานจับมาถวายพระราม ดังนั้นสีแดงอมส้มของเนื้อกะทิผัดกับพริกแกงเผ็ดก็เปรียบเสมือนกับกองไฟจากเชิงตะกอนนั่นเอง
นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ รองผู้ว่าฯ สมุทรสงครามกล่าวว่างาน”วิถีถิ่น วิถีไทย แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” จัดขึ้นช่วงวันสุดสัปดาห์ทุกเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 5 ก.ค. ถึงวันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค.2568 รวม 6 สัปดาห์ได้แก่ วันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ค.,วันเสาร์ที่ 12 และวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.,วันเสาร์ที่ 19 และวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ค.,วันเสาร์ที่ 26 และวันอาทิตย์ที่ 27 ก.ค.,วันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 ส.ค. วันเสาร์ที่ 9 และวันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค.2568 ทั้งนี้ส่งเสริม เผยแพร่และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอันดีงาม เนื่องจากสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมที่ยาวนาน อีกทั้งรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในฐานะพระปฐมบรมศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงส่งเสริมด้านศิลปะและวัฒนธรรมไทยจนเจริญก้าวหน้าสืบสานมาจนถึงอนุชนรุ่นหลัง ทรงเป็นกวีเอกและมีพระปรีชาสามารถอย่างยิ่งในด้านวรรณศิลป์พระองค์ทรงมีพระราชนิพนธ์วรรณคดีที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมมากมายซึ่งหลายเรื่องยังคงเป็นที่รู้จักและนิยมจนถึงปัจจุบันจนประเทศไทยได้กำหนดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น”วันศิลปินแห่งชาติ” ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์
นาง ยลกานต์ เที่ยงแท้ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนวัฒนธรรม จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่ากิจกรรมในงานนอกจากจะมีแกงนางลอยที่นำมาสาธิตในงานแถลงข่าววันนี้แล้ว จะมีการสาธิตเมนูอาหารคาวหวานจากวรรณคดีไทย บทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 เช่น กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานและรามเกียรติ์ รวมทั้งอาหารถิ่นหาทานยากของ จ.สมุทรสงครามให้ผู้ร่วมงานได้ชมและชิม พร้อมช้อปผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย สินค้าโอทอป ร้านค้าชุมชนและร่วมชมการแสดงถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมไทยจากเยาวชน หนังกลางแปลงพากย์สดทุกวันเสาร์อาทิตย์ สุดสัปดาห์ทั้ง 6 ครั้ง ที่โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์
นอกจากนี้วันที่ 18 ถึงวันที่ 20 ก.ค.ที่อุทยาน ร.2 จะมีการแสดงโขนเยาวชน ณ โรงละครกลางแจ้งกฤษฎารณฤทธิ์ และที่ใต้ถุนเรือนอาวุธสร้าง มีการแสดงละครชาตรี อังกะลุง หนังใหญ่ และหุ่นสาย ตลอดทั้งสามวัน จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวและผู้สนใจมาชมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ชิมอาหารไทยโบราณและอาหารถิ่นพื้นบ้านในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยเข้าชมฟรีตลอดงานไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
///// ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสมุทรสงคราม /////