
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 30 มิถุนายน 2568 พ.ต.ท.มาโนช ฤทธิพูล สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำ 2 ราย ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำวัดพุทไธศวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ประสานเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การสนับสนุน
พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นสามเณร 2 รูป ลอยอยู่กลางแม่น้ำ เจ้าหน้าที่ใช้เรือนำร่างผู้เสียชีวิตเข้ามาตรวจสอบ ทราบชื่อต่อมา สามเณรนิติกร ศิริชาติ อายุ 15 ปี ไม่สวมใส้เสื้อผ้า และสามเณรกฤษดา ศิริบัว อายุ 13 ปี นุ่งเพียงสบงผืนเดียว ทั้งสองรายสภาพศพขึ้นอืดตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
จากการสอบสวนนายอุทิศ บุญจิต อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 28 มิ.ย. เวลาประมาณดึกขณะตนหาปลา อย่าฝั่งตรงข้ามกับท่าน้ำวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3-4 กม. ได้เห็นกลุ่มสามเณรเล่นน้ำอยู่ริมตลิ่ง แต่ไม่ได้เข้าไปเตือน กระทั่งเช้าวันนี้ทราบว่ามีการพบศพสามเณร จึงมั่นใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่เห็น
ต่อมา นายอนุโรจน์ หฤทัยทิพย์ อายุ 55 ปี ไวยาวัจกรของวัดกษัตราธิราชวรวิหาร เดินทางมาที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็น สามเณร ที่มาจำวัตร และเรียนนักธรรมตรีอยู่ที่วัดประมาณ 2 เดือนมาทราบว่าสามเณทั้ง2 รูปหายไปจากวัด สอบถามไปที่วัดต้นสังกัดซึ่งอยุ่ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่พบว่าสามเณรไปที่วัดจึงได้มีการแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา และมีการสอบถามสอบสวนเพื่อนสามเณรด้วยกันที่อยู่ที่วัดไม่มีใครและรู้ว่าสามเณรทั้ง2 รูปหายไปไหน ต่อมากลุ่มเพื่อสามเณรที่อยู่ที่อีกวัดหนึ่งได้ส่งภาพที่กลุ่มสาเณรของวัดถ่ายภาพกันที่ท่าน้ำของวัด กำลังเล่นน้ำกัน จำนวนหลายรูป จึงได้รู้ว่ามีการแอบไปเล่นน้ำกันกลางดึกของวันที่ 28 มิ.ย.
จึงได้เรียกสามเณของวัดที่อยู่ในภาพมาสอบถามจึงยอมรับว่าได้แอบไปเล่นน้ำกันจริงแต่ไม่รู้ว่า สามเณทั้ง 2 รูปจมน้ำสูญหายไปตอนไหน ไม่กล้าบอกใครกลัวความผิด
ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเตรียมเรียกสามเณรอีก 6 รูปมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนประสานญาติผู้เสียชีวิต และส่งศพให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี ทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดต่อไป