ขณะที่สังคมกำลังสับสนและแสดงความเป็นห่วงในเหตุการณ์บ้านเมืองถึงกระแสข่าวต่างๆที่ มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับประชาชนหลายครอบครัวที่กำลังประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจหลายรายได้ในครอบครัว โดยยังรวมพ่วงถึงปัญหาด้านสุขภาพและจำนวนผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงวัยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ในโครงการธนาคารเตียงสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์ วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวงฯ ยังคงได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากญาติโยมเพื่อขอรับเตียงและรถวีลแชร์ไปใช้ในครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด นางบัวลอย ขำเจิม อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลทัพหลวง ได้ขอความอนุเคราะห์เตียงผู้ป่วยให้กับ นางทองหล่อ ขำเจิม อายุ 82 ปี มารดา ป่วยติดเตียงด้วยโรคมะเร็งในลำไส้และเนื้องอกในกระเพาะอาหาร ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยในการดูแลสุขภาพ ประกอบกับรายได้ที่ไม่เพียงพอสวนทางกำไรจ่ายจึงไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงวัยได้
หลังรับการประสานงานร้องขอความช่วยเหลือ หลวงพี่น้ำฝน ได้ส่งทีมงานสำรวจความเดือดร้อน บ้านเลขที่ 21/1หมู่ 1 ตำบลทัพหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปพบกับครอบครัวของนางบัวลอย โดยได้นำข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องยังชีพ โดยได้นำปัจจัยจำนวนหนึ่ง พร้อมกับสิ่งที่ขอรับการสนับสนุนคือเตียงสำหรับผู้ป่วย ไปมอบให้ถึงครัวเรือน พร้อมทั้งได้สอบถามถึงปัญหาในการดำเนินชีวิตพร้อมให้แนวทางปฏิบัติวิธีคิดในการต่อสู้ชีวิตในขณะที่ชีวิตกำลังประสบปัญหารอบด้าน
นางบัวลอย บอกว่าเดิมทีตนเองได้ทำอาชีพรับจ้างในการหารายได้ดูแลมารดาและบุตรชายที่อยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ไปตรวจพบว่ามารดามีอาการป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ซึ่งด้วยความผูกพันและคุ้นเคยกันของตนเองกับแม่ซึ่งจะได้มีการพาแม่ไปใส่บาตรทุกเช้า จนเป็นที่ทราบดีของชาวบ้านและมีเจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อมจะเห็นกิจกรรมของเราอยู่เสมอ แต่เมื่อ ไม่นานมานี้ตนเองไม่ได้พาแม่ออกไปเพราะแม่เริ่มป่วยหนัก เจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อมจึงได้มีการไปสอบถามและทราบความ ข้อมูล ซึ่งตนเองได้ประสานขอเตียงผู้ป่วยเพื่อใช้สำหรับดูแลมารดา ทันทีที่ได้ แจ้งความประสงค์ไปไม่นานหลวงพี่น้ำฝนท่านก็มาเองถึงบ้านและนำสิ่งของต่างๆที่ร้องขอไปมามอบให้ ตนเองมองเหมือนกับชีวิตมีพระมาโปรดจริงๆ และมองไม่เห็นใครว่าจะช่วยตนเองได้นอกจากหลวงพี่น้ำฝน ตรงนี้ก็ต้องขอขอบคุณและพูดไม่ออกกับสิ่งที่ตัวเองได้รับแต่ เหมือนกับว่ายังมีมีบุญที่ท่านยังเมตตาและต้องขอขอบพระคุณท่านจากใจจริง
หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม กล่าวว่าโครงการธนาคารเตรียมสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์วัดไผ่ล้อมยังคงทำหน้าที่ต่อไปในการสงเคราะห์ญาติโยมไม่ว่าวันนี้สถานการณ์ญาติโยมจะมองพระเป็นอย่างไรแต่วัดไผ่ล้อมและคณะสงฆ์ก็ยังจะคงทำหน้าที่ในการสงเคราะห์และช่วยเหลือญาติโยมในยามที่เดือดร้อนต่อไปนอกเหนือจากภารกิจหลักในการศึกษาพระธรรม และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พระสงฆ์เองก็ยังต้องมีหน้าที่ในการให้กำลังใจให้ทางทำและให้ทางออกกับญาติโยมที่มีปัญหา วันนี้หากยังมองไม่เห็นใครที่จะพอช่วยได้ในนครปฐม หรือจังหวัดอื่นๆที่เดือดร้อนหากประสานเข้ามาและทางอาตมาและคณะสงฆ์ช่วยได้ก็ยินดีจะช่วยทุกกรณีเพื่อให้เราเป็นสังคมแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุขนั่นเอง
