ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา นำทีมผู้เชี่ยวชาญปลอก “มะพร้าวทะเล” (Coco de Mer) “โคโค่ เดอ แมร์” ผลไม้หายากระดับโลกจำนวน 9 ลูก ปรากฏว่า 1 ในนั้นให้เมล็ดแฝด รวมทั้งหมดเป็น 10 เมล็ด ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง โดยเมล็ดแต่ละเมล็ดนั้น มีมูลค่ากว่า 100,000 บาท ทำให้มูลค่ารวมของการเก็บเมล็ดในครั้งนี้ทะลุกว่า 1 ล้านบาท
สวนนงนุชพัทยา ในฐานะสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ ได้รวบรวมพันธุ์ไม้จากทั่วโลกกว่า 18,000 ชนิด โดย “มะพร้าวทะเล” เป็นหนึ่งในพืชหายาก ที่ได้รับการดูแลและอนุรักษ์อย่างพิถีพิถัน ปัจจุบันสามารถขยายพันธุ์มะพร้าวทะเลรวมทั้งต้นกล้า ได้แล้วกว่า 229 ต้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ยิ่งใหญ่ของวงการพฤกษศาสตร์ไทย ที่ก้าวสู่เวทีโลกอย่างภาคภูมิ“มะพร้าวทะเล” หรือ “มะพร้าวแฝด” คือปาล์มพันธุ์พิเศษที่หายากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก พบได้เฉพาะบนหมู่เกาะเซเชลส์ ในมหาสมุทรอินเดีย ได้รับการบันทึกใน “กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด” ว่า เป็นพืชที่มีเมล็ดใหญ่ที่สุดในโลก

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า โดยในธรรมชาติ มะพร้าวทะเลต้องใช้เวลานานถึง 60 ปีจึงจะเริ่มออกผลและต้องรออีก 7 ปี ให้ผลสุกเต็มที่ ก่อนเพาะต่ออีก 2 ปี จึงจะเห็นต้นอ่อน แต่ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมงานสวนนงนุชพัทยา ทำให้สามารถเร่งวงจรชีวิตให้มะพร้าวทะเลออกผลได้ภายไม่เกิน 30 ปีและในบางผลอาจให้เมล็ดมากกว่า 1 เมล็ด เช่นในครั้งนี้ ที่พบเมล็ดแฝด ถือเป็นปรากฏการณ์อันน่าทึ่งที่สะท้อนถึงความสำเร็จของการดูแลและฟื้นฟูพันธุ์พืชหายากอย่างแท้จริง
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน 0816235473