
วันนี้ (26 กันยายน 2568 นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายคณิต มีปิด รองอธิบดีกรมศุลกากร และคณะผู้บริหารกรมศุลกากร ร่วมแถลงผลการจับกุมบุหรี่ต่างประเทศละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 215 ล้านบาท
ณ ห้องโถง อาคาร 1 ชั้น 1 กรมศุลกากร (คลองเตย)
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและปราบปรามสินค้าที่ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศและอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค กรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล
การนำเข้า – ส่งออก และผ่านแดนสินค้า จึงดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทั้งการบังคับใช้กฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่น
ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนำระบบเทคโนโลยีบริหารความเสี่ยงมาใช้ในการกำกับดูแลการตรวจปล่อยสินค้า และยังได้ประสานงานด้านการข่าวกับทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าเล็ดลอดเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปรามร่วมกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ทำการตรวจสอบสินค้าผ่านแดนจากประเทศ CAMBODIA ปลายทางประเทศ MAXICO จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ สำแดงสินค้าเป็น บุหรี่ โดยผ่านเข้าทางท่าเรือแหลมฉบัง และออกทางสนามบินภูเก็ต
ผลการตรวจพบเป็น บุหรี่ (CIGARETTES) ที่มีเครื่องหมายการค้า “Marlboro” โดยพนักงานศุลกากร มีเหตุสงสัย
ในสินค้าซึ่งมีลักษณะหรือพฤติการณ์การละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้า จึงได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ (Thai Customs IPR Recordation System (TCIRs)) พบว่ามีตัวแทนสิทธิ
ในเครื่องหมายการค้า “Marlboro” ได้ยื่นคำขอแจ้งข้อมูลสินค้าเครื่องหมายการค้าหรือลิขสิทธิ์ล่วงหน้าเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 106/2565 เรื่อง การควบคุมการส่งออก การนำเข้า และการนำผ่าน ซึ่งสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ในการนี้ตัวแทนสิทธิฯ ได้เข้าร่วมตรวจสอบ พบว่าสินค้าดังกล่าวมิใช่ของจริง ซึ่งหากหลุดรอดเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ นอกจากจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว
ยังอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขอนามัยของประชาชน รวมทั้งส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อสังคมในวงกว้าง
กรมศุลกากรจึงได้ทำการตรวจยึดบุหรี่ (CIGARETTES) ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า จำนวน 19,200,000 มวน มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 144 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน (18 กันยายน 2568) ด่านศุลกากร
ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ทำการตรวจสอบสินค้าผ่านแดนจากประเทศ CAMBODIA ปลายทางประเทศ MEXICO จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ สำแดงชนิดสินค้าเป็นบุหรี่ ผลการตรวจสอบพบเป็นบุหรี่ต่างประเทศละเมิดเครื่องหมายการค้า
จำนวน 9,568,000 มวน มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 71 ล้านบาท รวมแล้วจากทั้งสองกรณี กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดบุหรี่ต่างประเทศละเมิดเครื่องหมายการค้า รวม 28,660,000 มวน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย
ทางเศรษฐกิจ 215 ล้านบาท
กรณีนี้เป็นความผิดฐานนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยหลีกเลี่ยงข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น หรือยอมให้ผู้อื่นยื่นใบขนสินค้า และเอกสารหรือข้อมูล ซึ่งเกี่ยวกับ
การเสียอากรหรือปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 ไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์ อันเป็นความผิด ตามมาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 และเป็นความผิดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการผ่านแดน ตามมาตรา 102 มาตรา 104
และมาตรา 106 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออกห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร
พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2565 และ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่อว่า กรมศุลกากรจะมุ่งมั่นในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายศุลกากร
และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการตรวจสอบสินค้า เพื่อประสิทธิผล
ที่ยั่งยืนและคุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศในระยะยาวต่อไป