เมื่อเวลา20.50 น.วันที่ 28 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี จากกรณีมีพระหลวง ตาไสว แก้วโชติ (นามสกุลเดิม) หรือ พระไสว ถาวโร อายุ 68 ปี จมน้ำมรณภาพ ภายในสำนักสงฆ์ธรรมเสถียร (หนองเม็ก) หมู่ 11 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยมีหมาตัวเล็กวัยประมาณ 2 เดือนเพศเมียนอนเฝ้าอยู่บนศพหลวงตา จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยถูกทำร้าย นอกจากนี้ภายในสำนักสงฆ์ดังกล่าวมีหลวงตาจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว และเลี้ยงหมากับแมวไว้ประมาณ 15 ตัวเป็นที่เศร้าสลดใจ และไม่สามารถติดต่อญาติของหลวงตาได้ ทราบว่าบ้านเดิมอยู่ที่ ต.สุขเกษม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ตามรายละเอียดที่นำเสนอแล้ว ก่อนหน้านี้ นั้น
ได้รับแจ้งจากนายวันชัย ทองอ้ม ผู้ใหญ่บ้านได้ติดต่อแหลนของพระไสว ถาวโร เจ้าสำนักฯที่เป็นลมคว่ำหน้าจมน้ำเสียชีวิตช่วงบ่ายวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาโดยมีน้องหมาเพศเมียสีเขียวอายุ 2 เดือนนอนเฝ้าอยู่บนหลังศพไม่ห่างสร้างความสลดหดหู่แก่ผู้พบเห็น ซึ่งคาดว่าน้องหมามีความผูกพันธ์กับเจ้าของคือหลวงตาที่เลี้ยงดูมาพระไสวจำพรรษาเพียงรูปเดียว โดยวันรุ่งขึ้นผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางไปตามหาญาติตามที่อยู่เดิมของพระไสวที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ไม่พบว่ามีญาติอยู่ในพื้นที่จึงประสานกำนันวิโรจน์ ก่ามะละคร กำนันตำบลสลกบาตร อ.ขาณุวรลักษณ์ จ.กำแพงเพชร ที่ช่วยตามหาญาติของพระไสวอยู่จนทราบว่าพระไสวมีเหลนอยู่ที่ ต.ศาลาลำดวน จ.สระแก้ว จังหวัดติดต่อกัน
จากนั้นวันนี้(28ก.ย.)ได้ประสานผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอรับศพหลวงตาที่เก็บไว้ที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่สำนักฯ โดยมีชาวบ้าน20คนร่วมกันจัดสถานที่เพื่อบำเพ็ญกุศลศพ
ระหว่างนั้นมีนางสาวพัชรินทร์ เพื่ออิทธิพล ชาวกรุงเทพฯทราบข่าวน้องหมากตัญญูนอนเฝ้าศพบนหลังหลวงตาอยากจะรับน้องหมาตัวดังกล่าวไปเลี้ยง ทางผู้ใหญ่บ้านบอกว่าทางวัดมีพระแจ้งความประสงค์มาว่าจะมาจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้แล้ว นางสาวพัชรินทร์จึงขอรายละเอียดเพื่อที่จะบริจาคอาหารน้องหมาให้เดือนละ 2 กระสอบผู้ใหญ่บ้านจึงให้รายละเอียดกับผู้ใจบุญรายดังกล่าวเพื่อที่จะให้ที่อยู่ติดต่อส่งอาหารน้องหมามาให้ที่สำนักสงฆ์ตามเจตนารมณ์ต่อไป
ทางด้านกัญญาภัทร เขียวเหล็ก เหลนสาวกล่าวว่า ตนเองทราบข่าวเมื่อวานนี้ (27ก.ย.) หลังจากที่ทางผู้ใหญ่บ้านพยายามติดต่อหาญาติของหลวงตา ซึ่งทางญาติย้ายไปอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชรและอายุเยอะแล้ว จึงไม่สามารถมาดำเนินการใดๆได้ จึงได้มอบให้ตนเองเป็นเหลนเดินทางมาดำเนินการแทนญาติ ขอขอบคุณกำนันและผู้ใหญ่บ้านที่ช่วยติดตามหาญาติจนพบ
ซึ่งเมื่อก่อนทราบว่าหลวงตาไม่ได้ติดต่อญาติพี่น้องมาเป็นเวลาหลาย 10 ปีและไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่รู้ว่ามาบวชจำพรรษาอยู่ที่นี่ รู้สึกหดหู่ใจพี่หลวงพ่อมรณภาพที่สระน้ำหลังวัดโดยมีน้องหมาตัวเล็กนอนเฝ้าอยู่บนหลังศพที่หลวงตาจมน้ำมรณภาพอยู่ภายในสำนักสงฆ์ โดยจะบำเพ็ญกุศลศพไว้เป็นเวลา 3 คืนจะได้ทำการฌาปนกิจศพต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานระหว่าการสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพ พบเจ้าเขียวหมาเพศเมียตัวที่นอนเฝ้าอยู่บนศพหลวงตา ได้นอนเฝ้าหน้าโลงศพของหลวงตาไม่ไปไหนมันคงยังไม่รู้ว่าเจ้าของคือหลวงตามรณภาพแล้ว แต่ไม่ยอมให้ใครจับตัวเป็นที่น่าสงสารแก่ญาติโยม
