เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม ร.ต.อ.ถาวร แสงใสย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 108/43 หมู่ 7 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน, พิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา, สายตรวจ และประสานเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยาเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าบ้านพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย นอนอยู่ข้างรถยนต์เบนซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ขย 9705 กรุงเทพมหานคร มีบาดแผลถูกยิงที่คาง กระสุนทะลุแก้ม และบริเวณลำตัวอีก 4 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อภายหลังคือ นายธีระโชติ พารอด อายุ 30 ปี
ภายในบ้าน บริเวณชั้นล่าง พบศพชาย 1 ราย นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายบัญชา ภูษาทอง อายุ 60 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอก 1 นัด และถูกแทงด้วยของมีคมที่ลำคอด้านซ้าย ใกล้กันพบกรรไกรตกอยู่ และมีปืนขนาด 9 มม. อยู่ในมือผู้เสียชีวิต เลือดนองพื้น
ข้างประตูบ้านพบกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินตกอยู่ ภายในพบปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นของผู้บาดเจ็บ ตรวจสอบพบว่ามีกระสุนขัดลำกล้อง และมีร่องรอยการยิงออกไป 1 นัด
จากการสอบสวน นางสาวปริญชญา ภูษาทอง อายุ 28 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ในบ้านกับลูกสาวและพ่อ โดยผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นอดีตสามี ได้ตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน ตนไม่ออกไปเพราะอดีตสามีมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายทั้งตนและลูก จึงล็อกประตูไว้ แต่ผู้ก่อเหตุได้ปีนรั้ว งัดประตูมุ้งลวดเข้ามาในบ้าน และมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อ
ต่อมาตนได้ยินเสียงปืนหลายนัด รีบลงมาพบว่าพ่อถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ก่อนหน้านี้ตนเคยหนีไปอยู่บ้านญาติที่ จ.ร้อยเอ็ด แต่ถูกอดีตสามีตามไปจนต้องกลับมาอยู่กับพ่อ และยังถูกข่มขู่ซ้ำ จึงเคยแจ้งความไว้ เนื่องจากอดีตสามีเป็นลูกชายของรองนายกเทศมนตรีเทศบาลแห่งหนึ่งใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
นางสาว รมณ วิไลเนตร อายุ 42 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นน้าของผู้หญิง ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเขย และเลิกรากับหลานสาวมาได้ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากฝ่ายชายชอบข่มขู่และทำร้ายหลานสาว บุกมาด่าทอพี่ชายของตน (ผู้เสียชีวิต) ถึงหน้าบ้านหลายครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เพิ่งมีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะกล้าลงมือรุนแรงถึงขั้นฆ่ากัน
ทางญาติผู้เสียชีวิตรู้สึกกังวลว่า อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีครอบครัวมีตำแหน่งทางการเมืองในพื้นที่
พยานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ผู้บาดเจ็บเคยมีปากเสียงที่บ้านหลังนี้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุด มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด หลังเสียงปืนสงบ เห็นผู้บาดเจ็บวิ่งออกมาจากบ้าน เลือดไหลเต็มตัว พยายามจะขึ้นรถเบนซ์หลบหนี แต่ไม่สามารถขับออกไปได้ ชาวบ้านจึงช่วยกันควบคุมตัวและแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
นอกจากนี้ยังมีพยานให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตเคยบ่นอยู่บ่อยครั้งว่ามีปัญหากับลูกเขย ที่มักมาระราน ขอคืนดีกับลูกสาวและแสดงพฤติกรรมรุนแรงในบ้านเป็นประจำ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียด เก็บพยานหลักฐาน อาทิ วิถีกระสุน หัวกระสุน คราบเขม่าดินปืนจากมือผู้เสียชีวิต พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปอายัดตัวผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ก่อเหตุขับรถเก๋งมาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะลงจากรถ วิ่งเข้าไปภายในบ้าน และวิ่งกลับออกมาด้วยสภาพเปื้อนเลือด โดยมีชาวบ้านช่วยควบคุมตัวไว้ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่เตรียมเรียกพยาน บุคคลในครอบครัว และผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บหลังอาการดีขึ้น เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
