กองทัพบกย้ำนโยบาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยมุ่งสร้างความอุ่นใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจสำคัญ ณ แนวหน้าชายแดน โดยเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 พลตรี ณัฐเดช จันทรางศุ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 1 ได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวกำลังพลในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยมี พันเอก ณัฐฐา นวลศรีฉาย ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ และผู้ใต้บังคับบัญชาให้การต้อนรับ พร้อมทั้งรายงานว่า ในปัจจุบันมีบุคคลในครอบครัวของกำลังพลที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ เพื่อยืนยันว่า ขณะที่นักรบกำลังทำหน้าที่ปกป้องประเทศ คนที่บ้านจะได้รับการดูแลจากกองทัพเสมือนเป็นคนในครอบครัว
การลงพื้นที่ครั้งนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ได้เข้าเยี่ยมครอบครัวกำลังพลรวม 5 รายในพื้นที่สระบุรี โดยหนึ่งในนั้นคือครอบครัวของ ร้อยโท นุกูล ดาษดา ตำแหน่งรองผู้บังคับกองร้อยลาดตระเวน กองพันทหารม้าที่ 27 (ม.พัน.27) ซึ่งขณะนี้กำลังปฏิบัติราชการสนามอยู่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
รองแม่ทัพภาคที่ 1 ได้สอบถามความเป็นอยู่ของภรรยาและบุตรชายของ ร.ท. นุกูล อย่างเป็นกันเอง โดยเฉพาะ นายพี (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ด้านครอบครัวของ ร.ท. นุกูล ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งถึงความรู้สึกว่า รู้สึกดีใจ ที่แม่ทัพและรองแม่ทัพให้เกียรติมาตรวจเยี่ยมถึงที่พัก ทำให้คลายความกังวลและได้รู้ว่าสามีไม่ได้อยู่แนวหน้าอย่างเดียวดาย แต่มีผู้บังคับบัญชาคอยดูแลอยู่ตลอด
อีกทั้งได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่ค่อยจะรู้ว่าพ่อบ้านไปทำอะไร แต่เมื่อแม่ทัพรองแม่ทัพมาตรวจเยี่ยมอย่างนี้ ก็จะได้รู้ว่าสามีไปปฏิบัติหน้าที่แบบไหน ดีใจที่ได้รับความดูแลเอาใจใส่จากกองทัพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้การหรือผู้พัน (ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 27) ที่คอยจัดรถรับส่งน้องไปโรงเรียนเพราะเป็นเด็กพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ครอบครัวมีความอุ่นใจเป็นอย่างมาก
ขณะที่ลูกชายให้กำลังใจพ่อ “ดีใจที่พ่อเป็นทหาร” นายพี (นามสมมติ)บุตรชายที่มีความต้องการพิเศษ แม้จะมีข้อจำกัดในการสื่อสาร แต่ก็สามารถแสดงออกถึงความรักและความภูมิใจในผู้เป็นพ่อโดยตอบข้อซักถามจากผู้สื่อข่าว สามารถจับใจความได้ว่า “ดีใจครับ” น้องพี กล่าวสั้น ๆ เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกที่พ่อโทรศัพท์มาหาทุกวัน และแสดงความภาคภูมิใจในอาชีพทหารของผู้เป็นพ่อ พร้อมฝากข้อความให้กำลังใจไปถึง ร.ท. นุกูล ว่า “ดีใจที่พ่อเป็นทหาร อยากให้คุณพ่อตั้งใจ… ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง”
การมาเยี่ยมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการให้กำลังใจแก่ครอบครัวแล้ว ยังเป็นการสื่อสารไปยังกำลังพลทุกคนว่า “ในขณะที่พวกคุณกำลังทำหน้าที่สำคัญที่สุดคือการปกป้องประเทศชาติ ขอให้สบายใจได้ว่า ครอบครัวของพวกคุณคือครอบครัวของกองทัพบกเช่นกัน” ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกองทัพบก ที่ต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ทหารทุกนาย ให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเป็นห่วงคนที่บ้าน เพราะกองทัพจะทำหน้าที่ “ดูแลต่อ” ให้กำลังพลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถด้วยสติและปัญญาของทหารไทย
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ รายงาน
