ปราจีนบุรี โอละพ่อผีในวัดถูกฟ้องบังคับคดี

ในช่วงเช้า วันนี้ (20 พ.ย. 68) เจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดปราจีนบุรี สาขากบินทร์บุรี ได้นำประกาศ เจ้าพนักงานบังคับคดี 20 พฤศจิกายน 68 ระหว่าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (โจทก์) นางสาวนิติลัคน์ กุ่มเรือง (ผู้ซื้อทรัพย์) นายวิรัต ศิริรักษ์ (จำเลย) เจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดปราจีนบุรี สาขากบินทร์บุรี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า

ศาลจังหวัดกบินทร์บุรีได้มีหมายบังคับคดี มีคำสั่งตามคำพิพากษาให้ จำเลยและบริวารของจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกไปจากอสังหาริมทรัพย์ คือ โฉนดที่ดินเลขที่ 590 เลขที่ดิน 5 หน้าสำรวจ 85 เล่มที่ 6 หน้าที่ 90 ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี จำนวนเนื้อที่ 1-3-83 ไร่ เพื่อที่ผู้ร้อง (ผู้ชื่อทรัพย์) จะได้เข้าครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ (รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหมายบังคับคดี ที่ได้แนบมาพร้อมประกาศนี้)
จึงประกาศให้บุคคลที่อยู่อาศัยหรือครอบครองทรัพย์ ซึ่งอ้างว่ามิได้เป็นบริวารของจำเลยยื่นคำร้องต่อศาล
ภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันปิดประกาศ เพื่อแสดงว่าตนมีอำนาจพิเศษในการอยู่อาศัยหรือครอบครองทรัพย์นั้น มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นบริวารของจำเลย และเจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการลงพื้นที่พบว่า เนื้อที่ดินจำนวน 1-3-83 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่วัดโพธาราม ซึ่งในขณะนี้มีการวางเสาปูนให้เห็นจำนวน 4 ต้น ที่บริเวณหลังวัดหรือป่าช้าหลังวัด ที่ทางวัดใช้เป็นที่เก็บอัฐิของผู้เสียชีวิต ที่บรรดาลูกหลานนำกระดูกใส่เจดีย์ไว้ที่หลังวัดเป็นจำนวนมาก ใกล้กันมีอาคารที่ทางวัดไว้เก็บศพ ส่วนนอกรั้ววัด พบว่าเสาปูนเป็นหลักเขตที่รังวัดใหม่อยู่ในกำแพงวัด เมื่อสุดกำแพงไปเล็กน้อยจะเป็นลักษณะที่ราบลุ่ม พร้อมเสาเขตใหม่

ในเรื่องนี้ จ.ส.ต.เฉลย กุ่มเรือง พ่อ น.ส.นิติลัคน์ กุ่มเรือง (คนซื้อที่ดิน) กล่าวว่า กรมอุทยาน เป็นผู้ยึดทรัพย์สินของจำเลยขายทอดตลาด โดยถ่ายภาพแค่นิดเดียว ที่เหลือก็เป็นที่วัดและเอาไปขายทอดตลาด ต่อมาผู้ซื้อก็ไปซื้อที่ และให้เจ้าพนักงานที่ดินมารังวัด เมื่อรังวัดเสร็จก็ถึงรู้ว่าที่ประมาณ 90 % อยู่ในเขตวัด เราก็เลยทำการเพิกถอนการขาย ศาลชั้นต้นก็เพิกถอนการขายทอดตลาด และโจทก์ กรมอุทยานยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์กลับคำสั่งศาลว่า ขายถูกต้องแล้ว ทางวัดก็ไม่ได้มาแถลงต่อศาล ก็มีเพียงภาพถ่ายที่ผู้ร้องนำส่งศาลว่าไม่น่าเชื่อถือ คำสั่งศาลอุทธรณ์ให้ว่า ทางเจ้าอาวาสและผู้ที่ยกให้วัดไม่มาเป็นพยาน ก็เลยทำให้ทางศาลอุทธรณ์ ต้องรับคำสั่งศาลชั้นต้น ผมก็อยากได้เงินคืน ผมก็ไม่อยากได้ที่วัด

พระนิคม ญาณธโร เจ้าอาวาสวัดรูปปัจจุบัน กล่าวว่า เกี่ยวกับการยึดที่วัดนั้น เจ้าของเดิมถวายมา 30 กว่า ปีแล้ว คนสมัยก่อนเมื่อถวายให้ก็ไม่ได้มอบเอกสารอะไรไว้ ก็เลยตามเลยจนมาถึงปัจจุบัน ก็เลยมีเรื่องกับป่าไม้ที่มายึดที่แปลงนี้อาตมาก็เพิ่งมาเป็นเจ้าอาวาสเมื่อ 2 ปี มานี้ก็ไม่ค่อยทราบข้อมูลแน่ชัดเท่าไร ต่อไปก็จะให้ทางทนายเป็นฝ่ายนำเรื่องเสนอทางศาลว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นของวัดมา 30 กว่าปีแล้วเขาถวายมานานแล้ว ซึ่งทางวัดก็ล้อมรั้วมาตามที่เห็น พิสูจน์ว่าที่ดินนี้เป็นที่ธรณีสงฆ์

You May Also Like